รอยเตอร์/เอเอฟพี/รัสเซียทูเดย์ - ดามัสกัสออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษในจังหวัดอิดลิบ ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏซีเรีย คร่าชีวิตอย่างน้อย 58 ศพ ตามคำกล่าวหาของตะวันตก โดยชี้เป็นความพยายามเอาชนะในสงครามสื่อ หลังปราชัยในสมรภูมิรบ ขณะที่รัสเซียก็บอกปัด ระบุเครื่องบินรบของพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว
รอยเตอร์อ้างข้อมูลจากกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีสำนักงานในอังกฤษ อ้างว่าเหตุโจมตีเกิดขึ้นในเมืองข่าน เชคุน ในจังหวัดอิดลิบ สังหารผู้คนไป 58 ราย ในนั้นเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีถึง 11 คน
มูนเซอร์ คาอิล หัวหน้าหน่วยงานสาธารณสุขของอิดลับ บอกเช่นกันว่ามีผู้ถูกสังหารมากกว่า 50 คนและบาดเจ็บกว่า 300 คน
วิดีโอที่พวกนักเคลื่อนไหวโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพวินาทีที่ระเบิดลง พบเห็นกลุ่มควันลอยคลุ้งขึ้นสู่อากาศ ขณะที่ชาวบ้านอ้างว่าเหตุโจมตีเริ่มต้นขึ้นในตอนเช้า โดยพวกเขาได้ยินเสียงเครื่องบินบนท้องฟ้า ต่อมาก็ตามด้วยระเบิดตูมสนั่นหลายระลอก จากนั้นพวกชาวบ้านก็เริ่มแสดงอาการต่างๆ อย่างรวดเร็ว
เหยื่อจำนวนมากมีอาการสำลักและหน้ามืดตามหลังการโจมตี โดยบางคนมีฟองไหลออกจากปาก อาการที่สื่อมวลชนเชื่อว่าน่าจะเป็นผลจากการถูกโจมตีด้วยก๊าซพิษ
ภาพต่างๆ ที่เผยแพร่โดยพวกนักเคลื่อนไหวเป็นภาพของสมาชิกลุ่มอาสาสมัครหมวกขาว (White Helmets) กำลังฉีดน้ำล้างผู้ได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับชาย 2 คนที่มีโฟมสีขาวรอบๆ ปาก
ศูนย์การแพทย์เอดลิบ (อีเอ็มซี) ซึ่งฝักใฝ่กลุ่มกบฏ ได้โพสต์ภาพลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ระหว่างให้การรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ขณะที่บางภาพดูเหมือนจะเป็นรูปร่างไร้วิญญาณของเด็กอย่างน้อย 7 คนอยู่บนกระบะหลังของรถปิคอัพ
ผู้สื่อข่าวเอเอพีรายงานว่าในเวลาต่อมาได้มีจรวดลูกหนึ่งพุ่งเข้าถล่มโรงพยาบาลที่กำลังให้การรักษาเหยื่อจากเหตุก๊าซพิษโจมตี อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากเหตุโจมตีนี้หรือไม่
แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition) พันธมิตรของกลุ่มกบฏ กล่าวหารัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ว่าเป็นคนลงมือโจมตีด้วยก๊าซพิษและเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้าสืบสวน
ฝรั่งเศส เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเดประชุมฉุกเฉิน ขณะที่ เฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู บอกว่ารัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีนี้ ที่เธอให้คำจำกัดความว่า "น่าสะพรึงกลัว"
บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ก็เรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับเหตุโจมตีเช่นกัน โดยเขียนบนทวิตเตอร์ว่า “พวกที่อยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ” ส่วนองค์การห้ามอาวุธเคมี ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขารู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อคำกล่าวอ้างโจมตีดังกล่าว
แม้มีคำกล่าวอ้างจากกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียและกลุ่มสนับสนุนฝ่ายค้านอื่นๆ แต่แหล่งข่าวทหารซีเรียบอกกับรอยเตอร์ว่าดามัสกัสไม่ได้ใช้อาวุธเคมีและปฏิเสธคำกล่าวหาของฝ่ายกบฏว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
แหล่งข่าวระบุว่า “กองทัพไม่ได้ใช้ก๊าซพิษ ทั้งในอดีตและในอนาคต เพราะอย่างแรกเลยก็คือ พวกเขาไม่มีมัน”
ส่วนแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับอาวุโสคนหนึ่งตอบโต้ผ่านเอเอฟพีว่า คำกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีเข่นฆ่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคนที่หมู่บ้านซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันอังคาร (4 เม.ย.) นั้นไม่เป็นความจริง “มันเป็นคำกล่าวหาเท็จ กองกำลังฝ่ายค้านพยายามแสวงหาความสำเร็จในสื่อมวลชน หลังพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในสมรภูมิรบ”
ด้านรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธเช่นกัน โดยกองทัพมอสโกระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในจังหวัดอิดลิบ
