xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีเก็งเฟดอาจขึ้น ดบ. อีกรอบในปีนี้-คาดบาทแกว่งในกรอบ 33.20-33.60

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรีฯ คาดเฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกรอบในปีนี้ และเริ่มลด QE ในเดือนกันยายนนี้ ขณะที่คาดบาทยังแข็งค่าทดสอบระดับ 33.30 กสิกรฯ คาดสัปดาห์หน้าแกว่งในกรอบ 33.20-33.60

ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ในช่วงที่ 1.00-1.25% ตามความคาดหมาย โดยเฟดระบุว่าจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 1% แล้วนับตั้งแต่ปี 2558 ประเด็นหลักของแถลงการณ์เฟดอยู่ที่ ภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดยอมรับว่าปรับตัวลดลง และอาจไม่ใช่ปรากฏการณ์ชั่วคราว รวมถึงการส่งสัญญาณในเรื่องการลดการถือครองพันธบัตรในเร็ว ๆ นี้ ท่าทีล่าสุดดังกล่าวบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมากที่สุดอีกเพียง 1 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปี 2560 และจะเริ่มประกาศปรับลดขนาดงบดุลในเดือนกันยายนนี้

ขณะที่ค่าเงินบาทปลายสัปดาห์ก่อนแข็งค่าสู่ระดับ 33.37 ในช่วงเปิดการซื้อขายเช้านี้ เทียบกับ 33.49 ของวันก่อนหน้า หลังการปรับลดลงของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับ 6 สกุลเงินสำคัญ โดยเงินยูโรแข็งค่าสุดในรอบสองปีครึ่ง และเงินบาททำสถิติแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 26 เดือนครั้งใหม่ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทุกช่วงอายุปรับลดลงหลังเฟดเปิดเผยแถลงการณ์ ส่วนสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า ความน่าจะเป็นของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ลดลงต่ำกว่า 50% ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐหนุนราคาทองคำขึ้นด้วย

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่า แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย ยังคงขาดความต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนปรับสถานะพอร์ตลงทุนตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบรายวัน แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า หลังจากมีกระแสการเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินนอกสหรัฐฯ แต่ยังมีโอกาสที่ดอลลาร์สหรัฐจะเคลื่อนไหวกลับทิศทางเป็นแข็งค่าในระยะสั้น หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสะท้อนข่าวเชิงลบ และอ่อนค่าลงมาพอสมควร ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับปัจจัยชี้นำสำคัญถัดไป ตลาดจะให้ความสนใจกับการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาเพื่อเห็นชอบแผนการยกเลิก และแทนที่กฎหมายประกันสุขภาพโอบามาแคร์ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ เช่นโครงการปฏิรูปภาษี และการลงทุนขนาดใหญ่ต่อไป

คาดบาทแกว่งในกรอบ33.20-33.60

ด้านธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ 33.20-33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ สถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐฯ และรายงานดัชนี PMI ของจีน ยูโรโซน และสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE)

สัปดาห์นี้เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2558 (ประมาณ 2 ปี 3 เดือน) โดยการแข็งค่าของเงินบาทเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ สะท้อนว่ายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่า เฟดจะส่งสัญญาณเตรียมปรับลดงบดุลในระยะใกล้ ๆ นี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น