บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ รายงานสรุปความเห็นสดๆร้อนๆ เกี่ยวกับการซื้อหุ้นบริษัท ส.ธนามีเดีย จำกัด ของบริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EIC และเป็นบทสรุปที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ต้องให้ความสนใจ
เพราะการซื้อหุ้นบริษัท ส.ธนามีเดีย อาจหมายถึงความเป็นความตายของ EIC
คณะกรรมการ EIC มีมติเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ในการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท ส.ธนามีเดีย ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่ป้ายโฆษณานอกบ้าน ในรูปแบบป้ายบิลล์บอร์ด จำนวน 49,998 หุ้น หรือ100% ของทุนจดทะเบียน ในราคาเฉลี่ยหุนละ 7,440.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 372 ล้านบาท และจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไปแล้ว 19 ล้านบาท
มติการซื้อหุ้นส.ธนามีเดียของคณะกรรมการบริษัท ถูกนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 16มิถุนายน และได้รับการอนุมัติ หลังจากนั้นได้มีการตั้งบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระเกี่ยวกับการได้มาซึ่งทรัพย์สิน
วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา EIC ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงรายงานสรุปของบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ฯ ซึ่งศึกษาผลดีผลเสียของการซื้อส.ธนามีเดียอย่างรอบด้าน ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงในการลงทุนหุ้นส.ธนามีเดีย และประเมินราคายุติธรรมหุ้นบริษัทส.ธนามีเดียอยู่ระหว่าง 238.33-274.54 ล้านบาท หรือ4,766.65-5,510.77 บาทต่อหุ้น
“สีลม แอ๊คไวเซอรี่” เสนอความเห็นว่า การซื้อหุ้นบริษัท ส.ธนามีเดีย ไม่มีความสมเหตุสมผลด้านราคา และมีความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและฐานะของส.ธนามีเดีย ผู้ถือหุ้น EICจึงควรไม่อนุมัติทำรายการ
ความเห็นของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ คงจะนำไปสู่ประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตือนให้ผู้ถือหุ้น EIC พิจารณาผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ และใช้ความรอบคอบในการลงมติการซื้อหุ้นส.ธนามีเดีย
เพราะราคาที่ฝ่ายบริหารบริษัทฯตกลงจะซื้อนั้น สูงกว่าราคายุติธรรม และหากซื้อ อาจจะต้องเพิ่มทุน ระดมเงินจากผู้ถือหุ้น เพื่อลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูง
รูปแบบการดำเนินงานของEIC เป็นไปในแนวทางเดียวกับบริษัท โพลารีส แคปปิตัล จำกัด(มหาชน)หรือ POLAR และไม่รู้ว่ามีความเกี่ยวพันกันอย่างไร เพราะเป็นหุ้นที่มีการเพิ่มทุนบ่อย และแม้ผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง ฐานะทางการเงินไม่แข็งแรงมากนัก แต่ชอบที่จะซื้อทรัพย์สิน โดยมักจะวางมัดจำล่วงหน้า
หุ้นโพลาร์ ซึ่งหนีเข้าขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายไปแล้ว ก่อนหน้าได้ซื้อที่ดินย่านพหลโยธิน วางมัดจำล่วงหน้า 350 ล้านบาท ซึ่งส่อเค้าว่าจะถูกกินเงินมัดจำ และแม้สภาพคล่องทางการเงินจะมีปัญหา แต่ก็ซื้อ A DAY วงเงิน308 บาท วางมัดจำไป120 ล้านบาท ก่อนล้มเลิกแผนการซื้อ และทำท่าว่า เงินมัดจำ120 ล้านบาทจะไม่ได้คืนเหมือนกัน
เงินมัดจำที่ฝ่ายบริหาร EIC วางไว้ในการทำบันทึกข้อตกลงซื้อหุ้นส.ธนามีเดีย ถ้าหากต้องยกเลิกรายการซื้อหุ้น มีแนวโน้มว่า จะไม่ได้คืน โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหาย ไม่รู้ว่า จะมีใครฟ้องเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากคณะกรรการบริษัทฯหรือไม่
ผู้ถือหุ้นรายย่อย EIC มีจำนวนทั้งสิ้น 3,115 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน100%ของทุนจดทะเบียน จึงเป็นอีกบริษัทจดทะเบียนที่ไม่มีเจ้าภาพ ไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่มี “เจ้ามือ”หรือไม่ ต้องถามนักลงทุนในตลาดหุ้น
EIC แม้จะเป็นหุ้นขนาดจิ๋ว แต่ความเคลื่อนไหวในกระดานหุ้นไม่ธรรมดา ราคาเมื่อต้นปีถูกลากขึ้นไปประมาณ 90 สตางค์ แต่หลังจากนั้นทรุดมาตลอด จนล่าสุดเมื่อวันที่12 กรกฎาคมทรุดลงมายืนที่ 22 สตางค์ นักลงทุนเจ็บหนักตามๆกัน
รายงานผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระเกี่ยวกับการได้มาซึ่งหุ้นส.ธนามีเดีย ซึ่งจัดทำมาอย่างละเอียด สะท้อนมุมมองในทุกด้าน ถ้าผู้ถือหุ้นรายย่อยได้อ่าน คงจะมีความเห็นในแนวทางเดียวกัน
และเห็นด้วยกับคำแนะนำของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระที่ระบุว่า ไม่ควรอนุมัติการซื้อหุ้นส.ธนามีเดีย
แต่เชื่อว่า คณะกรรมการEICคงจะหาเหตุผลมาลบล้างรายงานความเห็นของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ และพยายามผลักดันแผนการซื้อหุ้นส.ธนามีเดียต่อ
ผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งตกอยู่ในฐานะตัวประกันของEIC เพราะติดหุ้นกันหมด ต้องถามใจตัวเองแล้วว่า จะเห็นชอบกับการซื้อหุ้นส.ธนามีเดียหรือไม่
ถ้าเห็นชอบ เตรียมควักกระเป๋าแล้วกัน ถ้าเกิดความเสียหาย อย่าโทษใครแล้วกัน เพราะถือว่าบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระเตือนภัยแล้ว