xs
xsm
sm
md
lg

เล่น ”กรุ๊ปลีส” ถึงตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


       ราคาหุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด(มหาชน)หรือ “จีแอล” ซึ่งตกรูดมหาราชอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนพูดกันกระหึ่มตลอดสัปดาห์นี้
     เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร กลายเป็นคำถามยอดฮิตในตลาดหุ้น

     “กรุ๊ปลีส” เป็นหุ้นขนาดกลาง ผลการดำเนินงานพอใช้ได้ มีกำไรต่อเนื่อง เพียงแต่ราคาอาจสูงไปหน่อย เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีค่าพี/อี เรโชกว่า 60 เท่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 3ปีย้อนหลังต่ำกว่า1%
     หุ้นตัวนี้ไม่ปรากฏตัวเจ้ามือที่ชัดเจน แต่จัดเป็นหุ้นที่ไม่ธรรมดาตัวหนึ่ง โดยภายในช่วงเวลา12 เดือน ราคาหุ้นถูกลากขึ้นมาอย่างหวือหวา จากจุดต่ำสุดที่19.10 บาท พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่69.75บาท ปรับตัวขึ้นถึงประมาณ260% โดยผลประกอบการไม่ได้เติบโตโดดเด่นแต่อย่างใด
     ผู้ถือหุ้นรายย่อยในกรุ๊ปลีสมีประมาณ3,700 คน ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนประมาณ44% ของทุนจดทะเบียนจำนวน73,255.83 ล้านบาท หรือ1525.54ล้านหุ้น (พาร์0.50บาท) โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนไม่กี่พันราย จึงไม่อยู่ในข่ายหุ้นยอดนิยมนัก

    หุ้นกรุ๊ปลีสแสดงอาการไม่ดี ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2559 หลังจากคณะกรรมการมีมติ ซื้อหุ้นบริษัทในต่างประเทศสองแห่ง ใช้เงินลงทุนเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน รวมทั้งการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 700 ล้านบาท
    บริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระ ไม่เห็นด้วยกับการทำรายการทั้งหมดของฝ่ายบริหารบริษัท กรุ๊ปลีส เนื่องจากมีความเสี่ยง และราคาหุ้น 2บริษัทที่จะเข้าไปซื้อ โดยเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันก็สูงกว่าราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายก็สูงกว่าปกติ
    แต่เสียงคัดค้านของบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระต้องตกไป เพราะคณะกรรมการยืนยันทีจะเดินหน้าซื้อหุ้นบริษัทในต่างประเทศและออกหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยอ้างว่าเป็นโอกาสขยายธุรกิจ

     สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาเตือนให้ผู้ถือหุ้น พิจารณาข้อมูลอย่างละเอียด ซักถามฝ่ายบริหารบริษัทถึงรายละเอียดการทำรายการ ก่อนลงมติอนุมัติการดำเนินงานใดๆของคณะกรรมการบริษัท
    แม้การซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศในราคาที่ไม่สมเหตุผลจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และทั้งก.ล.ต.กับตลาดหลักทรัพย์เพ่งเล็งการทำธุรกรรมของคณะกรรมการ”กรุ๊ปลีส” และส่งสัญญาณเตือนแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ลงมติอนุมัติการซื้อทรัพย์สินและออกหุ้นกู้แปลงสภาพ

    ราคาหุ้นกรุ๊ปลีสเคยถูกตบรูดลงเหลือประมาณ 43 บาท ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2559 แต่ถูกลากขึ้นมาใหม่ หลังผู้ถือหุ้นมีมติรับรองมติคณะกรรมการบริษัทฯ โดยขยับยืนสูงกว่า 60 บาท ทำให้นักลงทุนมีมุมมองหุ้นกรุ๊ปลีสในด้านบวก และทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้น
    แต่หลังจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ หุ้นกรุ๊ปลีสเริ่มพลิกผัน มีแรงขายไหลรินออกมา ราคาหุ้นซึมลงต่อเนื่อง จนกระทั่งวันศุกร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา มีแรงเทขายออกมาระลอกใหญ่ กดให้ราคาหุ้นจมดิ่ง และการถล่มขายเกิดขึ้นต่อเนื่องข้ามสัปดาห์
    กระทั่งวันพุธที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันมหาวินาศของผู้ถือหุ้นกรุ๊ปลีส เพราะตั้งแต่เปิดการซื้อขายก็ถูกทุบทันที และกลายเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่ง เคาะซื้อเคาะขายกันทั้งสิ้น 10,848.93 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อขาย 283.93 ล้านหุ้น หรือประมาณ 18% ของทุนจดทะเบียน
    ส่วนราคาวูบลงมายืนที่ 35.75 บาท ลดลง 12.25 บาท หรือลดลง 25.52% ในวันเดียว

    ประเด็นที่กดดันหุ้นกรุ๊ปลีสคือ ความกังวลการปล่อยเงินกู้ของบริษัทให้ลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งเสี่ยงที่อาจเกิดความเสียหาย จนนำไปสู่การถล่มหุ้น
    ยังไม่มีการรายงานข้อมูลว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใดทิ้งหุ้นกรุ๊ปลีสออกมาหรือไม่ แต่ถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ขาย หุ้นจำนวนมหาศาลที่ไหลทะลักเข้ามาในกระดาน ถูกขนมาจากไหน
    เพียงเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ หุ้นกรุ๊ปลีสลงมาเกือบ 50% จากราคา 62 บาท ถูกทุบจนเหลือเพียง 35.75 บาท แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนที่ติดหุ้นตัวนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับคือ

   กรุ๊ปลีสลงสุดหรือยัง จะยังทุบกันต่อหรือไม่ จุดต่ำสุดจะอยู่ที่ไหน ควรโยนผ้ายอมแพ้ ตัดขาดทุนนขายดีหรือไม่ เพราะราคาเริ่มดีดกลับ เปิดช่องเล็กๆให้ออกเหมือนกัน

    พฤติกรรมราคาหุ้นกรุ๊ปลีสช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธุรกรรมของคณะกรรมการบริษัทในหลายกรณีที่ถูกตั้งข้อสงสัยในความไม่โปร่งใส ทำให้หุ้นตัวนี้ กลายเป็นหุ้นอันตราย
    ไม่จำเป็นอย่าเข้าไปยุ่ง เพราะพลาดพลั้งถึงตายได้ และสัปดาห์นี้แมลงเม่าตายกันเป็นเบือแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น