บิ๊กบอส “ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้” ปลื้มสถาบันไทยพัฒน์ ยกนิ้วให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ประจำปี 2560 ตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน หนุนสถาบัน-นักลงทุน VI เพิ่มน้ำหนักลงทุน
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทได้รับการจัดอันดับจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็น 1 ใน 100 หลักทรัพย์จดทะเบียนที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG100) ประจำปี 2560 ว่า ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับสังคม การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล
“ตลอดระยะเวลากว่า 26 ปี ในการดำเนินธุรกิจของ FPI ไม่ได้มองแค่ผลกำไรเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม รวมถึงการยึดหลักธรรมภิบาลในการบริหารจัดการธุรกิจ เพราะจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้นักลงทุนสถาบัน กองทุน หรือนักลงทุนหุ้นเน้นคุณค่า หรือ VI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น เพราะนอกเหนือจากผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้วยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และสังคมด้วย” นายสมพล กล่าว
ผลการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่เข้าอยู่ใน Universe ของ ESG100 ประจำปี 2560 มีบริษัทที่ติดอันดับ กระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 8 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) 11 บริษัท 2. กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) 6 บริษัท 3. กลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) 12 บริษัท 4. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) 16 บริษัท 5. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) 14 บริษัท 6. กลุ่มทรัพยากร (Resources) 10 บริษัท 7. กลุ่มบริการ (Services) 18 บริษัท และ 8. กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 13 บริษัท
ทั้งนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) รวมกันของหลักทรัพย์ ESG100 ในตลาด SET มีมูลค่าราว 6.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40.6 เมื่อเทียบกับมาร์เกตแคปของ SET ที่ 15.3 ล้านล้านบาท
การจัดอันดับหลักทรัพย์กลุ่ม ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม นอกจากจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระดับการเปิดเผยข้อมูล ESG ของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะเป็นการเผยแพร่ข้อมูล ESG ของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินการได้ดีให้แก่ผู้ลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ เพิ่มโอกาสการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนจากกลุ่มผู้ลงทุนที่ใช้เกณฑ์ ESG เพื่อสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่น่าพอใจในระยะยาว พร้อม ๆ กับการสร้างผลกระทบทางสังคมในเชิงบวก