xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.ประเมินเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบตลาดหุ้นไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลท.ประเมินเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบตลาดหุ้นไทย ด้านเงินบาทแข็งค่าทิศทางเดียวกับภูมิภาค

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์นี้จะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากนัก ส่วนทิศทางตลาดหลักทรัพย์โลกยังทรงตัว ด้านค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5 อยู่ที่ประมาณ 34.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน

พร้อมมองว่า การปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินของ ธปท.นั้น ธปท.ควรผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้ประชาชน และบริษัทมีทางเลือกลงทุนมากขึ้น อาทิ ควรผ่อนคลายให้รายย่อยที่มีสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่ 50 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 100 ล้านบาท สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านตัวแทนการลงทุนในประเทศ ภายใต้วงเงินลงทุนไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อรายต่อปี พร้อมให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศแก่บริษัทหลักทรัพย์ โดยให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้ลงทุนไทย และต่างชาติ ได้ภายใต้ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์

สำหรับภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนพฤษภาคม 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,561.66 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.21 จากสิ้นปี 2559 ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม มี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มธุรกิจการเงิน ในเดือนนี้ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 5,454 ล้านบาท เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค ส่งผลให้ตลอดปีผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิสะสมในตลาดหลักทรัพย์ไทย 13,651 ล้านบาท ด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai สิ้นเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 15.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.83 จากสิ้นปี 2559 ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai เดือนพฤษภาคม รวมอยู่ที่ 42,994 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.46 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนพฤษภาคม 2560 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 243,889 สัญญา และ 281,141 สัญญาในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 โดยตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมลดลงร้อยละ 1.42 เมื่อเทียบกับปี 2559 ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายที่ลดลงของ SET 50 Index Futures
กำลังโหลดความคิดเห็น