xs
xsm
sm
md
lg

เดอะ สตีล แย้มยอดขาย 5 เดือนตามคาด-เตรียมนำ “ไพร์ม สตีล มิลล์” เข้าเทรด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เดอะ สตีล มั่นใจงบไตรมาส 2 ปีนี้สดใส ตามราคาเหล็กทรงตัวในระดับสูง แย้มยอดขาย 5 เดือนเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ผู้บริหาร “บุญชัย จิระพงษ์ตระกูล” คาดอุตฯ เหล็กปีนี้ไม่น่าหวือหวา หวังการเลือกตั้งกระตุ้นภาคการลงทุนฟื้น แถมเป็นแรงขับเคลื่อนงานโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมเดินหน้านำ “ไพร์ม สตีล มิลล์” เข้าตลาดหุ้นปลายปี 61

นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ “THE” เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2560 มีแนวโน้มดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากทิศทางราคาเหล็กยังทรงตัวในระดับสูง โดยมองว่า ภาพรวมยอดขายในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.60) เป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้รับผลบวกภายหลังการเข้าซื้อหุ้นบริษัทย่อย “บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด” (เดิมชื่อ บริษัท เต๋อหลง (ไทยแลนด์) จำกัด) ซึ่งซื้อหุ้นเพิ่มอีก 30% เป็น 50% จากเดิมถืออยู่เพียง 20% โดยบริษัทฯ ได้รับโอนหุ้น และจ่ายชำระค่าหุ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ส่งผลให้สัดส่วนเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะช่วยสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปี 2560 ดีขึ้นจากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 545.29 ล้านบาท และรายได้รวม 1.58 หมื่นล้านบาท
 
สำหรับภาพรวมในไตรมาส 1/2560 บริษัทมีรายได้รวม 3,460.90 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 4,457.96 ล้านบาท ลดลง 22.37% เนื่องจากความต้องการเหล็กลดลงมาก ทำให้ปริมาณการขายเหล็กในไตรมาสนี้ลดลงประมาณ 35% แม้ราคาขายโดยเฉลี่ยทั้งไตรมาสจะปรับสูงขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 18% ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.81% จากไตรมาส 1/2559 มีกำไรขั้นต้น อยู่ที่ 8.26% นอกจากนี้ ไตรมาส 1/60 บริษัทมีการทยอยตั้งสำรองหนี้เสียสงสัยจะสูญเพิ่ม 26.56 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากบริษัทร่วม 20.29 ล้านบาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกประเภท และภาษีเงินได้แล้ว ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2560 มีกำไรสุทธิ 82.40 ล้านบาท

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า บริษัทมีนโยบายการดำเนินธุรกิจแบบ one stop service หรือการบริการแบบครบวงจร ซึ่งมุ่งเน้นที่ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย บริษัทสามารถแบ่งลักษณะการประกอบธุรกิจหลักของบริษัทได้เป็น 3 ลักษณะ อันประกอบด้วย การให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ แบบครบวงจร (Trading and Warehousing) หรือที่เรียกกันว่า ซื้อมาขายไป ได้แก่ เหล็กม้วนรีดร้อน, เหล็กม้วนสลิต, เหล็กแผ่น, เหล็กรูปพรรณประเภทขึ้นรูปร้อน และเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น รวมถึงการผลิต และแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก (Steel Processing) โดยบริษัทนำเหล็กม้วนรีดร้อนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ ได้แก่ เหล็กแถบม้วน (Slitting Coil), เหล็กท่อ (Steel Pipe) และเหล็กโครงสร้างรูปตัวซี (C-Channel) เป็นต้น

อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีศูนย์บริการเหล็ก (Coil Center) โดยให้บริการรับจ้างแปรรูปสินค้า อาทิ บริการตัดเหล็กแผ่น, ซอยหน้าเหล็กม้วนแถบเล็ก หรือบริการตัด-พับขึ้นรูป ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ การบริการจะเป็นเช่นเดียวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก (Steel Processing) ต่างกันที่ลูกค้าจะเป็นผู้นําวัตถุดิบมาให้บริษัททำการแปรรูปตามที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ อาทิ การบริการบรรจุภัณฑ์พิเศษ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็ก

นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มองภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กปีนี้ไม่น่าหวือหวามากนัก โดยทิศทางเป็นลักษณะทรงตัว โดยตลาดยังคงจับตามองถึงการเลือกตั้งภายในประเทศ เพราะหากมีการเลือกตั้ง จะเป็นช่วยสร้างความมั่นใจให้กับภาคการลงทุน และเป็นแรงขับเคลื่อนงานโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ความต้องการใช้เหล็ก เพื่อใช้ในงานก่อสร้างในประเทศเพิ่มขึ้น

สำหรับความคืบหน้าของการนำ บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยเบื้องต้น ยังคงเดินหน้าตามแผน ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนภายในปลายปี 2561
กำลังโหลดความคิดเห็น