บริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด(มหาชน)หรือหุ้นโพลาร์ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือหุ้นนิวส์ และบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) หรือหุ้นเอคิว เป็นหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ความสัมพันธ์เชื่อมโยงทั้งทางตรงและทางอ้อม เพียงแต่ไม่อาจระบุได้ว่า มีใครเป็นเจ้ามือใหญ่ คุมเกมอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ทำไมต้องตั้งคำถาม หุ้นทั้ง 3ตัว มีเจ้ามือใหญ่คุมเกมหรือไม่ คำตอบคือ เพราะหุ้นทั้ง 3ตัว มีพฤติกรรมและแนวทางการดำเนินงานเหมือนสำเนาเดียวกันมาตลอด
และล่าสุด ถูกสำนักง่านคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และถูกตลาดหลักทรัพย์เฝ้าเกาะติดธุรกรรมต่างๆเหมือนกันอีก
นิวส์อยู่ระหว่างประกาศเพิ่มทุนครั้งใหญ่ หวังระดมเงินก้อนโตทุน พร้อมแตกมูลค่าหุ้นหรือแตกพาร์ แต่ถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งชี้แจงข้อมูลการแตกพาร์ให้ครบถ้วน
เอคิวอยู่ระหว่างประกาศเพิ่มทุนครั้งมโหฬาร แต่ถูกก.ล.ต.สั่งให้ชี้แจงการขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งการขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมและขายให้บุคคลในวงจำกัด รวมทั้งผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับจากการเพิ่มทุน
ส่วนโพลาร์ประกาศขอล้มละลาย เพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยไม่ยอมแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลรับทราบ และถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งให้ชี้แจงฐานะบริษัทที่เปลี่ยนแปลงภายในเวลารวดเร็วชั่วพริบตา รวมทั้งการยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
โพลาร์อาการกำลังหนัก จากบริษัทจดทะเบียนที่ดูดี แม้จะมีหนี้ แต่ทรัพย์สินมากมายเกินหนี้ มีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่พอประมาณ แต่คณะกรรมการโพลาร์กลับออกมาประกาศว่า กิจการ “เจ๊ง”เสียแล้ว
ขณะที่หุ้นนิวส์และเอคิว ไม่รู้ว่า จะเผชิญชะตากรรมต่อไปอย่างไร ถ้าเพิ่มทุนรอบใหม่ไม่สำเร็จ
โครงสร้างผู้ถือหุ้นทั้ง 3 บริษัท มีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่ละบริษัทเพิ่มทุนถี่ยิบ โดยนิวส์เพิ่มทุนปี2557ถึง 11 ครั้ง ปี2558 เพิ่มทุนอีก 1 ครั้ง โพลาร์เพิ่มทุนปี 2557 จำนวน 8 ครั้ง และปี 2558อีก 3 ครั้ง ส่วนเอคิวเพิ่มทุนปี2557จำนวน 6 ครั้ง
เพิ่มทุนกันแล้ว โยกเงินไปขยายการลงทุน ซื้อทรัพย์สิน ก่อนผลดำเนินงานจะออกมาเหมใอนสำเนาเดียวกัน คล้ายๆกัน โดยขาดทุนต่อเนื่อง จนไม่รู้ว่า เงินเพิ่มทุนที่สูบจากผู้ถือหุ้นสาบสูญไปไหนหมด
ทั้งนิวส์และเอคิวกำลังเพิ่มทุนรอบใหม่ ถ้าบรรลุเป้าหมาย กรรมการและฝ่ายบริหารบริษัท จะมีเงินนำไปบรรเลงอย่างสบายๆอีกพักใหญ่
แต่ใครจะรู้ได้ วันดีคืนดี คณะกรรมการนิวส์และเอคิว อาจประกาศขอฟื้นฟูกิจการ โดยอ้างว่าหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยแทบ “ช็อกตาย”เหมือนผู้ถือหุ้นเอคิวก็ได้
ผู้ถือหุ้นที่จะควักกระเป๋าเพิ่มทุนเอคิวและนิวส์ จึงต้องคิดให้หนักๆ
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ที่เฝ้าสอดส่องหุ้นทั้ง 3 ตัวในกลุ่มนี้ อาจรู้ดีว่า มีใครกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ โดยเฉพาะ “โพลาร์” ซึ่งฐานะทรุดหนักในพริบตา เหมือนคนเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย
มีใครทำมิดีมิร้ายในหุ้นตัวนี้หรือไม่ คณะกรรมการบริษัทจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
และผู้ถือหุ้นรายย่อยมีช่องทางเรียกหาความรับผิดชอบจากคณะกรรมการบริษัทฯได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางแพ่ง และความผิดทางอาญา
การประกาศขอล้มละลาย เป็นเรื่องใหญ่ และเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเป็นความตายของผู้ถือหุ้นทั้งหมด แต่ทำไมคณะกรรมการโพลาร์ จึงไม่ปรึกษาผู้ถือหุ้นรายย่อยก่อน
ส่วนฐานะทางการเงินที่ย่ำแย่ถึงขั้นหนี้สินล้นพ้นตัวนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นตังแต่เมื่อไหร่ ทำไมคณะกรรมการบริษัทจึงไม่รายงานให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ
โพลาร์มีพฤติกรรมที่ชวนสงสัยในความไม่โปร่งใสมาตลอด และความเสียหายที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน11,523 คนกำลังได้รับ เป็นการตอกย้ำความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารงานของคณะกรรมการโพลาร์ทั้งชุด
สิ่งที่น่าค้นหาคำตอบในหุ้นตัวนี้คือ ความผิดพลาดล้มเหลวการบริหารของคณะกรรมการโพลาร์ มีประเด็นความไม่โปร่งใสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ก.ล.ต.ต้องเป็นผู้ค้นหาคำตอบให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่กำลังตายหมู่ ด้วยน้ำมือของฝ่ายบริหารโพลาร์
