นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ยืนยันต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ว่า กรณีที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติการประชุม ครั้งที่ 8/2560 เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) จาก 5 บาทเป็น 1 บาทดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทาง และหลักเกณฑ์ ฉบับที่ บจ. (6) 14/2559 ฉบับลงวันที่ 23 กันยายน 2559 ที่ได้กำหนดเรื่องการแตกพาร์ ต้องไม่น้อยกว่าหุ้นละ 0.50 บาท (ห้าสิบสตางค์)
อีกทั้ง บริษัทฯ ก็เคยกำหนดมูลค่าหุ้นที่ตราหุ้นละ 1 บาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 5 บาท ซึ่งหากพิจารณาสถิติการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในช่วงระยะเวลา 513 วัน ขณะที่ Par 5 บาท Turnover Ratio จะอยู่ที่ 0.99% ต่อวัน หรือ 249.48% ต่อปี ซึ่งหากเปรียบเทียบ Par 1 บาท Turnover Ratio ในช่วงระยะเวลา 513 วันเช่นเดียวกัน จะอยู่ที่ 2.14% ต่อวัน หรือ 539.28% ต่อปี ขณะที่บริษัทฯ มีจำนวนผู้ถือหุ้นลดลงจาก 13,592 คนในปี 2558 มาเป็น 8,926 คนในปัจจุบัน
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับฟังคำชี้แจงของผู้บริหารบริษัทฯ แล้วเห็นว่า คำชี้แจงดังกล่าวชอบด้วยเหตุผล และน่าจะเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้น
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการได้ขอทราบความเห็นทางกฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายว่า สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับที่ บจ. (6) 14/2559 ฉบับลงวันที่ 23 กันยายน 2559 เนื่องจากการลดพาร์ครั้งนี้ได้ลดที่ราคา 1.00 บาท
คณะกรรมการจึงพิจารณาแล้วเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ด้วยการลดพาร์จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแท้จริง โดยจะเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด ลดการกระจุกตัวของหุ้น ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มการกระจายการถือหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นในวงกว้าง และช่วยให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น และเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงอนุมัติให้ลดพาร์ และเพิ่มทุนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 ก่อนดำเนินการ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 รับทราบว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) ให้ครบถ้วน โดยตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทฯ ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) จาก 5 บาทเป็น 1 บาท รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการเกี่ยวกับความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าว
โดยบริษัทฯ ได้ชี้แจงว่า จะเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด ลดการกระจุกตัวของหุ้นทำให้หุ้นมีสภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถเพิ่มการกระจายการถือหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นในวงกว้าง ระดมทุนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยคณะกรรมการบริษัทเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) จะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อทั้งบริษัท และผู้ถือหุ้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และผู้ถือหุ้น
(รายละเอียดปรากฏตามข่าว NEWS วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 และ 1 มิถุนายน 2560)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า คำชี้แจงของบริษัทยังไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีหนังสือเวียนซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) โดยในขณะที่ปัจจุบัน หลักทรัพย์ของบริษัทมีจำนวนทุนจดทะเบียนถึง 8,508,100,847 หุ้น มี Turnover Ratio อยู่ในระดับ 100% รวมทั้งมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 8,637 ราย คิดเป็นสัดส่วน 78% ของทุนชำระแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีราคาหุ้นเพียงหุ้นละ 0.13-0.31 บาท (พาร์ 5 บาท) ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้คณะกรรมการบริษัทชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้างต้นในทุกประเด็น อย่างไร โดยขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2560
อีกทั้ง บริษัทฯ ก็เคยกำหนดมูลค่าหุ้นที่ตราหุ้นละ 1 บาท จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 5 บาท ซึ่งหากพิจารณาสถิติการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในช่วงระยะเวลา 513 วัน ขณะที่ Par 5 บาท Turnover Ratio จะอยู่ที่ 0.99% ต่อวัน หรือ 249.48% ต่อปี ซึ่งหากเปรียบเทียบ Par 1 บาท Turnover Ratio ในช่วงระยะเวลา 513 วันเช่นเดียวกัน จะอยู่ที่ 2.14% ต่อวัน หรือ 539.28% ต่อปี ขณะที่บริษัทฯ มีจำนวนผู้ถือหุ้นลดลงจาก 13,592 คนในปี 2558 มาเป็น 8,926 คนในปัจจุบัน
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับฟังคำชี้แจงของผู้บริหารบริษัทฯ แล้วเห็นว่า คำชี้แจงดังกล่าวชอบด้วยเหตุผล และน่าจะเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้น
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการได้ขอทราบความเห็นทางกฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายว่า สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับที่ บจ. (6) 14/2559 ฉบับลงวันที่ 23 กันยายน 2559 เนื่องจากการลดพาร์ครั้งนี้ได้ลดที่ราคา 1.00 บาท
คณะกรรมการจึงพิจารณาแล้วเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ด้วยการลดพาร์จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแท้จริง โดยจะเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด ลดการกระจุกตัวของหุ้น ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มการกระจายการถือหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นในวงกว้าง และช่วยให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น และเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงอนุมัติให้ลดพาร์ และเพิ่มทุนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 ก่อนดำเนินการ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 รับทราบว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) ให้ครบถ้วน โดยตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทฯ ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) จาก 5 บาทเป็น 1 บาท รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการเกี่ยวกับความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าว
โดยบริษัทฯ ได้ชี้แจงว่า จะเป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด ลดการกระจุกตัวของหุ้นทำให้หุ้นมีสภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถเพิ่มการกระจายการถือหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นในวงกว้าง ระดมทุนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยคณะกรรมการบริษัทเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) จะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อทั้งบริษัท และผู้ถือหุ้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และผู้ถือหุ้น
(รายละเอียดปรากฏตามข่าว NEWS วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 และ 1 มิถุนายน 2560)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า คำชี้แจงของบริษัทยังไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีหนังสือเวียนซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par) โดยในขณะที่ปัจจุบัน หลักทรัพย์ของบริษัทมีจำนวนทุนจดทะเบียนถึง 8,508,100,847 หุ้น มี Turnover Ratio อยู่ในระดับ 100% รวมทั้งมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 8,637 ราย คิดเป็นสัดส่วน 78% ของทุนชำระแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีราคาหุ้นเพียงหุ้นละ 0.13-0.31 บาท (พาร์ 5 บาท) ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้คณะกรรมการบริษัทชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้างต้นในทุกประเด็น อย่างไร โดยขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2560
