xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.ธัชพล” เปิดโมเดล กคช.ยุคใหม่ สนองรัฐ-เพิ่มรายได้-ลดหนี้-สานแฟลตดินแดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดร.ธัชพล กาญจนกูล
เปิดพันธกิจผู้ว่า กคช.คนใหม่ “ดร.ธัชพล กาญจนกูล” สนองแนวคิด Thailand 4.0 ขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี ใน 5 โครงการหลักในปี 60 คาดใช้เม็ดเงินในการดำเนินงานตามแผนต่อเนื่องแสนล้านบาท พร้อมเดินหน้านโยบายสร้างรายได้ เพิ่มพอร์ตค่าเช่า คาดแนวโน้มรายได้ใกล้หมื่นล้านบาท ระบุยุคนี้เปลี่ยนไป ต้องใช้การตลาดนำ สร้างมูลค่าเพิ่มในโครงการ ทั้งแนวคิดคอนโดฯ ผู้สูงอายุ พ่วงบริการดูแล 24 ชม. คอนโดฯ อนุรักษ์พลังงาน เผยแผนพัฒนาแฟลตดินแดง ที่เหลือเฟส 2, 3, 4 ต้องทันในรัฐบาลยุคนี้ ผลักดันแฟลตดินแดง สู่รูปแบบ Smart City ก่อนขยายผลสู่เมืองใหญ่ทั้ง เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่



ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ตนมีแนวคิดที่จะผลักดันให้ กคช. “เป็นองค์กรสมรรถนะสูงด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง เพื่อความมั่นคงทางสังคม” โดยมีแนวคิด สร้างบ้าน สร้างสุข สร้างอนาคต มุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดสนองตอบนโยบายของรัฐบาล Thailand 4.0 ผลักดันให้ กคช.ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โปร่งใส ทันสมัย ใส่ใจประชาชน ซึ่งจะต้องบูรณาการการดำเนินงานจากภายในองค์กร และภาคีเครือข่ายภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพด้านการก่อสร้าง และการบริหารจัดการด้านที่อยู่อาศัย แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ภายในองค์กร (Internal Architecture Model) ภายใต้แนวคิด 5 Re ประกอบด้วย Re - Corporate ปรับโครงสร้างองค์กร พัฒนาคน พัฒนาระบบงาน มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ Re - Brand ปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีความทันสมัย และตรวจสอบได้ Re - Assets บริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด Re - Equity ประเมินมูลค่าทรัพย์สินใหม่ จัดหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ และ Re - Liability ปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสม และแก้ไขระบบการเงินที่ไม่เหมาะสม (Financial Mismatch)

สำหรับแผนงานในปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-ก.ย.60) กคช.พร้อมจะขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) ประกอบด้วย 5 โครงการหลัก ดังนี้ 1.โครงการเคหะชุมชน มี 2 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทเช่า ได้แก่ โครงการพัฒนาฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง วงเงิน 35,000 ล้านบาท โดยนำร่องแปลง G จำนวน 334 หน่วย สร้างเสร็จ มิ.ย.61 หลังจากนั้น จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติจัดทำโครงการในระยะ 2, 3 และ 4 จำนวน 6,212 หน่วย ภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2560 ส่วนประเภทเช่าซื้อ ได้แก่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 จะนำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ จำนวน 22 โครงการ 7,233 หน่วย ภายในเดือนมีนาคม 2560

“ในอนาคต หากการพัฒนาแฟลตดินแดงแล้วเสร็จ จะมีความโดดเด่น มีอาคารเกิดขึ้นจำนวนมาก มีหน่วยงานรัฐ จะกลายเป็นแหล่งที่มีกำลังซื้อ จะกลายเป็นแลนด์มาร์ก เป็นซีบีดี จุดใหม่ เฉพาะของแฟลตดินแดง กว่า 20,000 หน่วย ซึ่งแนวคิดอยากจะพัฒนาแฟลตดินแดง ให้เป็น Smart City ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยร่วมกันของผู้คนทุกเพศทุกวัย มีบริการให้แก่ประชาชน มีแหล่งกระจายสินค้า คล้ายๆ โอท็อป และหากโมเดลนี้สำเร็จ จะขยายผลไปสู่ที่ดินของ กคช.ที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชน

2.โครงการบ้านข้าราชการ เพื่อให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยของหน่วยงานรัฐ สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน สภาพแวดล้อมเหมาะสม พร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ แบ่งออกเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จะนำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติจำนวน 3,000 หน่วย ภายในเดือนกันยายน 2560 และโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติจำนวน 10,000 หน่วย ภายในเดือนกันยายน 2560

3.โครงการบ้านเคหะประชารัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และมีความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน และผ่อนปรนพิเศษตามกรอบการดำเนินงานบ้านประชารัฐ โดยปี 2560 กำหนดเป้าหมายขาย จำนวน 12,754 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านพร้อมอยู่ จำนวน 6,822 หน่วย และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (พร้อมอยู่ภายใน 18 เดือน) จำนวน 5,932 หน่วย

4.โครงการบ้านกตัญญู เพื่อส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันครอบครัว โดยจะดำเนินการพัฒนา 2 โครงการ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี (วัดพระเงิน) เป็นอาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น จำนวน 352 หน่วย และจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เพื่อจัดทำโครงการในพื้นที่

และ 5.โครงการพัฒนา และปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชนของการเคหะแห่งชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย จำนวน 100 ชุมชน ภายในเดือนกันยายน 2560

โครงการต่างๆ ของ กคช.ใช้เม็ดเงินรวมค่อนข้างมาก ซึ่งพันธกิจที่ต้องสานต่อด้านที่อยู่อาศัยใช้เงินมากกว่าแสนล้านบาท ดังนั้น การนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาเสริม จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับรัฐบาล โดยโครงการใหม่อาจจะใช้วิธีระดมทุนผ่านรูปแบบการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือซีเคียวริไทเซชั่น หรือ รูปแบบ PPP ที่เปิดให้เอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับ กคช.ขณะเดียวกัน ยังมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นภาคการก่อสร้าง และต่อเนื่องไปยังภาคธุรกิจใหม่ๆ ขณะที่การทำโครงการกองทุนหมู่บ้าน วงเงิน 60,000 ล้านบาท ปล่อยไปก็หายไป โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน 1.5 แสนล้านบาท จะรีไฟแนนซ์ซะมากกว่าปล่อยจริง รวมตัวเลขเงิน 2.1 แสนล้านบาท ที่ออกมา กลับมีผลต่อ GDP ไม่มาก อาจไม่ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตามหลักความเป็นจริง GDP ต้องขึ้นมากกว่านี้” ดร.ธัชพล กล่าว



เพิ่มรายได้-ลดหนี้ NPL-เพิ่มมูลค่าโครงการ

ผู้ว่าฯ กคช.ยังกล่าวถึงการบริหารจัดภายในองค์กรว่า สิ่งที่ต้องแก้ปัญหาใน กคช.คงมีหลายมิติ ซึ่งมิติเรื่องงบการเงินจะผูกโยงไปถึงการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เนื่องจาก กคช.เปรียบได้กับเป็นผู้ผลิตสินค้า ผลิตสินเชื่อแล้วให้สถาบันการเงินอื่นๆ มาปล่อยลูกค้าในโครงการต่างๆ ของ กคช. แต่ในภาวะที่เกิดปัญหาหนี้เสีย กคช.มีการค้ำประกันรับซื้อคืน 5 ปี ก็วกกลับมาเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ต่อไป รวมถึงโครงการเดิมของ กคช.ที่ไปสร้างในตามต่างจังหวัด แต่ยังคงเหลือ เนื่องจากโครงการไม่สอดรับกับกำลังซื้อ

“เรื่องของการสร้างรายได้ก็สำคัญ โดยแนวทางการเพิ่มรายได้จะไปขยับพอร์ตเช่าซื้อมากขึ้น ด้วยวิธีโครงการเช่าซื้อที่ กคช.ดำเนินการอยู่ เพื่อให้สอดรับกับความสามารถของผู้อยู่อาศัย การบริหารอาคารที่มีอยู่ หรือแม้แต่การสร้างมูลค่าในโครงการเดิม เช่น โครงการคอนโดมิเนียมเพื่อผู้สูงอายุ มีบริการดูแล 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้มีข้อตกลงกับทางกระทรวงฯ จะกันพื้นที่ 10% ของแต่ละโครงการ รองรับผู้สูงอายุ โครงการคอนโดมิเนียมอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งกระทรวงพลังงานมีงบจากต่างประเทศในการสนับสนุนปรับเปลี่ยนหลอด LED หรือการติดตั้งโซลาร์รูฟ ซึ่งจะช่วยให้คนอยู่อาศัยจ่ายเงินลดลง”

อนึ่ง ตามข้อมูลปี 58 กคช.มีรายได้สุทธิ 7,659 ล้านบาท กำไรสุทธิ 415 ล้านบาท ปี 59 (ยังไม่ได้รับรองจากสำนักงบประมาณ) รายได้สุทธิ 7,293 ล้านบาท กำไรสุทธิ 572 ล้านบาท ส่วนปี 60 เป้ากำไรสุทธิ 800 ล้านบาท ส่วนรายได้จะถึงหมื่นล้านบาทหรือไม่ ต้องขอดูแผนอีกที ส่วนตัวเลขเงินกู้ของ กคช.ในปัจจุบันกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 60 มีกำหนดชำระประมาณ 3,400 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น