บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยวันนี้ ยังทรงตัวแบบ sideway รับผลจากแรงขายของต่างชาติที่ยังมีอยู่ แต่มาตรการภาครัฐ และแรงซื้อ LTF-RMF ยังพยุงตลาดในช่วงนี้ หุ้นเด่น TISCO, SC, GFPT, THANI
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (20 ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แข็งแกร่งจากความเชื่อมั่นว่า ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เองที่จะหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวดี และเมินเฉยต่อนโยบายการค้าต่างประเทศว่า อาจเป็นลบต่อสหรัฐฯ ในอนาคต
เมื่อเป็นช่นนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จึงไม่ได้กระทบต่อตลาดหุ้น และคืนที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นางเยลเลน ได้ตอกย้ำในเรื่องนี้ด้วยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ค่อยๆ แข็งค่าขึ้น ล่าสุด Dollar Index ขึ้นแตะ 103 จุดแล้ว หรือแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 14 ปี เป็น Indicator ที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ผลที่ตามมาจะเป็นเรื่องของการโยกย้ายสินทรัพย์ลงทุนของนักลงทุนสหรัฐฯ ที่อยู่นอกประเทศที่อาจกลับเข้าไปลงทุนสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น เราจึงเห็นว่า ตลาดหุ้นในบางประเทศที่มีการพึ่งพิงเงินลงทุนจากต่างประเทศต่างเป็นลบกันถ้วนหน้า รวมถึงของไทยด้วย สำหรับข่าวเอกอัครราชทูตของรัสเซียถูกลอบสังหารที่ประเทศตุรกีเช้าวันนี้ (20 ธ.ค.) ตลาดมีการตอบรับต่อเรื่องนี้บ้าง แต่ไม่ได้มากนัก
ทั้งนี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ภาพตลาดยังทรงตัวเป็นแบบ sideway ตลาดยังคงรับผลลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นหลายๆ แห่ง แม้ของไทยจะขายน้อยลง แต่ไม่ได้บอกว่า ในอนาคตนักลงทุนกลุ่มนี้จะไม่ขายต่อ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงตามลำดับ ล่าสุด 35.88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะกระตุ้นให้นักลงทุนที่ไม่ต้องการมีความเสี่ยงจากค่าเงิน ลดการถือสินทรัพย์เงินบาทลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นในช่วงนี้
นอกจากนี้ ตลาดไม่ได้มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ เข้ามา การประชุม ครม.วันนี้มาตรการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจที่เห็นมีเพียงการลดภาระดอกเบี้ยของผู้กู้เงินจากธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่จะมีเงินเข้าระบบเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันล้านบาท และน่าจะมีมาตรการอื่นๆ ด้วย เรามองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ ในรูปแบบต่างๆ ว่า เป็นแรงพยุงตลาดหุ้นไทยที่สำคัญ รวมทั้งแรงซื้อของกองทุน LTF-RMF ในช่วงนี้ด้วย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนการที่ตลาดมีทิศทางเป็น sideway เกาะอยู่แถวๆ ระดับ 1,521 จุด ทำให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดมีกรอบการเคลื่อนไหวที่แคบตามไปด้วย เหมาะกับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ แบบลงซื้อ ขึ้นขายมากกว่า และหุ้นขนาดเล็ก คาดจะมีความคึกคักมากขึ้นในวันนี้ สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่า อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ TISCO, SC, GFPT, THANI