บล.แอพเพิล เวลธ์ ผ่ามุมมองแนวโน้ม SET เดือน ธ.ค. แกว่งตัวในกรอบ 1,488-1,540 จุด แรงซื้อนักลงทุนต่างชาติเริ่มแผ่ว ลุ้นเม็ดเงิน LTF-RMF กว่า 2 หมื่นล้านบาท เข้ามาหนุน สั่งลุยหุ้น PTT- PTTEP-PTTGC-CK-STEC-ROBINS-HMPRO-CENTEL-ERW เข้าพอร์ต ได้รับอานิสงส์เต็มๆ ราคาน้ำมันพุ่ง-รัฐเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจกต์-มาตรการช็อปช่วยชาติ แนะจับตาผลการลงประชามติรับร่างปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลีในวันที่ 4 ธ.ค. อย่างใกล้ชิด ชี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของกลุ่มยูโรโซน คาดประชุมเฟดรอบสุดท้ายของปีนี้ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. ขึ้นดอกเบี้ยชัวร์ ดันเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งโป๊ก
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนธันวาคม 2559 จะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) ได้ข้อสรุปปรับลดลงกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2560 มีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับเฉลี่ย 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนในกองทุน LTF-RMF ที่จะเข้ามาในตลาดประมาณ 2 หมื่นล้านบาทด้วย โดยประเมินกรอบดัชนีฯ จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,488-1,540 (Forward P/E 2560 ที่ระดับ 14.0-14.5 เท่า) กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อลงทุน PTT, PTTEP, PTTGC, CK, STEC, ROBINS, HMPRO, CENTEL, ERW
“กลุ่มพลังงานได้รับประโยชน์หลังจากโอเปก ตัดสินใจลดกำลังการผลิต ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดได้ปัจจัยหนุนจากรัฐบาลเร่งการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ให้เสร็จภายในกลางเดือน ธ.ค., รถไฟทางคู่ รฟท.ได้ประกาศร่าง TOR จำนวน 3 เส้นทางแล้ว คือ ประจวบ-ชมพร, นครปฐม-หัวหิน และหัวหิน-ประจวบ โดยกำหนดขายเอกสารประมูลวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ เสนอราคาในวันที่ 10 ก.พ.2560 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ก็จะมีการเปิดซองประมูลวันที่ 6 ม.ค.2560 และหุ้นกลุ่มค้าปลีก และท่องเที่ยว ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหยอนภาษีได้ ซึ่งคาดจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว 3-6 หมื่นล้านบาท” นายอภิชัย กล่าว
สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามใน ธ.ค.นี้ คือ การลงประชามติร่างปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลีในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากพรรครัฐบาลแพ้โหวตนายกฯ อิตาลีอาจจะลาออก ส่งผลให้ความเสี่ยงทางการเมืองยุโรปเพิ่มมากขึ้น เนื่องหากขั้วอำนาจกลับมาอยู่กับฝ่ายค้านที่สนับสนุนนโยบายออกจากกลุ่มยูโรโซน ขณะที่การประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินแถบอาเซียน และเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเริ่มไหลออกจากตลาดหุ้น TIP จำนวน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น คาดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องใน ธ.ค.นี้ เพื่อรอดูแนวนโยบายการค้า และการลงทุนใหม่ของสหรัฐฯ ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนการประชุม ECB วันที่ 15 ธ.ค.นี้ อาจจะมีการพิจารณาขยายมาตรการซื้อพันธบัตรที่จะสิ้นสุดใน มี.ค.ปีหน้าออกไปอีก 6 เดือน