โรงพิมพ์ตะวันออก ไฟเขียวบริษัทย่อยซื้อหุ้น “ทัศน์ศิริ” ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration สัดส่วน 10% โดยมีมูลค่าการลงทุน 509.42 ล้านบาท หวังเสริมสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้บริษัทในอนาคต
นายวรีะ เหล่าวทิวัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทเมื่อ 15 ธันวาคม 59 มีมติอนุมัติการให้บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ทัศน์ศิริ จำกัด (THAT SIRI) ในสัดส่วน 50% จากบริษัท พีพีจีอาร์ จำกัด เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ในสัดส่วน 10% โดยมีมูลค่าการลงทุน 509.42 ล้านบาท
สำหรับ SSUT เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 240 เมกกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็น 2 โรง กำลังการผลิตแห่งละ 120 MW และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 60 ตันต่อชั่วโมง แบ่งเป็นกำลังการผลิตแห่งละ 30 ตันต่อชั่วโมง
โดยโรงที่ 2 ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 59 ส่วนโรงที่ 1 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าภายในเดือนธันวาคม 59
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าว บริษัทจะใช้เงินจากการเพิ่มทุนของ EP รวมถึง EP ได้ออก และเสนอขายหุ้นกู้แล้ว เมื่อวันที่ 23 กันยายน 59 และบริษัทมีวงเงินในการออกหุ้นกู้ จำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่า การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะช่วยส่งเสริม และสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงแก่บริษัทในอนาคต อันจะก่อให้เกิดผลกำไร และกระแสเงินสดกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
นายวรีะ เหล่าวทิวัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทเมื่อ 15 ธันวาคม 59 มีมติอนุมัติการให้บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ทัศน์ศิริ จำกัด (THAT SIRI) ในสัดส่วน 50% จากบริษัท พีพีจีอาร์ จำกัด เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ในสัดส่วน 10% โดยมีมูลค่าการลงทุน 509.42 ล้านบาท
สำหรับ SSUT เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 240 เมกกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็น 2 โรง กำลังการผลิตแห่งละ 120 MW และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 60 ตันต่อชั่วโมง แบ่งเป็นกำลังการผลิตแห่งละ 30 ตันต่อชั่วโมง
โดยโรงที่ 2 ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 59 ส่วนโรงที่ 1 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าภายในเดือนธันวาคม 59
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าว บริษัทจะใช้เงินจากการเพิ่มทุนของ EP รวมถึง EP ได้ออก และเสนอขายหุ้นกู้แล้ว เมื่อวันที่ 23 กันยายน 59 และบริษัทมีวงเงินในการออกหุ้นกู้ จำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่า การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะช่วยส่งเสริม และสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงแก่บริษัทในอนาคต อันจะก่อให้เกิดผลกำไร และกระแสเงินสดกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว