แม้ปัจจัยลบกดดัน แต่ “ทองคำ” ระยะสั้นยังมีโอกาสจับจังหวะแกว่งตัว

ปัจจัยลบยังรุมกดดันราคาทองคำแกว่งตัวลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสัญญาณการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก เร่งให้เฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ระยะสั้นยังทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาได้ แต่ระยะยาวแนะนำชะลอลงทุนเพื่อรอการปรับฐานของราคาทองคำ

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ให้ความเห็นถึงราคาทองคำในช่วงที่ผานมาว่า ยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และสร้างจุดต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 10 เดือน โดยอ่อนตัวลงกว่า 8% ถือว่าส่งสัญญาณขาลงอย่างชัดเจน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางราคาน้ำมัน ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” หลังมีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ออกมา ช่วยยืนยันถึงทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่ามีความชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่ผลการประชุมของกลุ่มโอเปกที่สามารถตกลงการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ปัจจัยดังกล่าวส่่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับทิศทางของอัตราเงินเฟ้อ ยิ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สามารถเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ถือเป็นอีกปัจจัยที่กลับมากดดันราคาทองคำ

โดยปัจจัยที่ติดตาม คือ การปรับตัวของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ จะยังมีท่าทีปรับตัวเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด แม้อาจจะมีการปรับฐานของสินทรัพย์ทั้ง 2 ชนิด แต่เชื่อว่าจะเป็นไปอย่างค่อนข้างจำกัด นั่นทำให้อาจเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำนั้นไม่มีมาก

นอกจากนี้ ยังสามารถจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นประกอบ เช่น การเปิดเผยดัชนความเชื่อมั่นผู้บริโภค จำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงาน ส่วนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามว่าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของ ECB จากนี้ไปจะดำเนินไปในทิศทางใด ซึ่งอาจขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีผลทำให้ค่าเงินสกุลยูโรอ่อนตัวลงจนกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำอีกครั้ง

โดยกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นแบบซื้อขายระยะสั้นจากการแกว่งตัวตามทิศทางราคาทองคำที่อยู่ในขาลง หากรับความเสี่ยงได้สูง อาจใช้โซนแนวรับ 1,161-1,153 เหรียญ/ออนซ์ เป็นจุดในการเข้าซื้อเพื่อหวังเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว แต่หากรีบาวนด์แล้วไม่พ้น 1,189-1,198 เหรียญ/ออนซ์ ราคาอาจเกิดแรงขายและอ่อนตัวลงจึงอาจต้องแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง และเข้าซื้อให้เมื่อราคาปรับฐานลง

“ในระยะยาว ไม่แนะนำการซื้อทองคำเพิ่ม ควรชะลอซื้อออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง โดยอาจทำได้แค่เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว น่าจะเป็นกลยุทธ์ลงทุนที่เหมาะสมที่สุดในช่วงนี้”