xs
xsm
sm
md
lg

“BJC” หั่นสินค้าอบายมุขใน “BIGC” ลง เหตุไม่ทำกำไร พร้อมทุ่มงบ 1 หมื่นล้านขยายสาขาเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


CFO ของ BJC ชี้เตรียมปรับลดสินค้ากลุ่มอบายมุข ทั้งเหล้าเบียร์ และบุหรี่ ที่วางขายในห้างบิ๊กซีลง เหตุที่ผ่านมา เป็นสินค้าที่ไม่ทำกำไร เพราะแบกรับต้นทุนหลายด้านสูงขึ้น แต่เพิ่มสินค้ากลุ่มอาหาร ที่ทำกำไรมากกว่า พร้อมกันนี้เตรียมทุ่มงบอีกกว่า 10,000 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม

นายรามี ปีไรเนน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ หรือ BJC กล่าวว่า จากกรณีที่บีเจซี ได้เข้ามาถือหุ้น และมีสิทธิในการบริหารเชิงกลยุทธ์ให้กับ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ หรือ BIGC ซึ่งจากที่ได้ตรวจสอบกลับพบว่า มีสินค้าบางประเภทที่มีต้นทุนสูง อีกทั้งการสต๊อกสินค้า และการขนส่ง ตลอดจนถึงการบริหารจัดการมีค่าใช้จ่ายสูง แต่กลับมีอัตรากำไรต่ำมากจนถึงไม่ได้กำไรเลย เช่น สินค้ากลุ่มบุหรี่ และสุรา ซึ่งคิดเป็น 15% ของยอดจำหน่ายสินค้าทั้งหมดของบิ๊กซี

“บริษัทฯ จึงมองว่า ควรที่จะปรับกลยุทธ์ด้วยการลดการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ทำกำไรออกไป และปรับเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มสินค้าที่ประชาชนมีความต้องการมาก ได้แก่ กลุ่มวัตถุดิบ และอาหารสด เพื่อเพิ่มกำไรจากการขายให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมา ในไตรมาสที่ 3/2559 บริษัทมียอดขายลดลง 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 12.93% โดยบิ๊กซี ยังคงเป้าหมายเป็นผู้นำด้านสินค้าราคาถูกต่อตามนโยบายการดำเนินธุรกิจ”

นอกจากนี้ ในปี 2560 BJC & BIGC ได้วางแผนในการขยายธุรกิจเพิ่มด้วยการอนุมัติงบลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบของบิ๊กซี จำนวน 8,000 ล้านบาท ใช้เพื่อขยายบิ๊กซีไฮเปอร์มาร์เกต จำนวน 9 สาขา และบิ๊กซีซูเปอร์มาร์เกต จำนวน 4 สาขา และมินิบิ๊กซี อีกกว่า 200 สาขา นอกจากนี้ ยังได้เตรียมปรับปรุงสาขาเดิมอีก 42 สาขา โดยปัจจุบัน บิ๊กซีมีจำนวนสาขาไฮเปอร์มาร์เกต รวม 128 สาขา (บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า และบิ๊กซีจัมโบ้) บิ๊กซีมาร์เกต 59 สาขา มินิบิ๊กซี 431 สาขา (21 สาขาแฟรนไชส์) ส่วนงบอีก 2,000 ล้านบาทนั้น เป็นงบลงทุนในส่วนของ BJC ที่จะใช้ในการลงทุนเพิ่มเติม และเสริมสภาพคล่อง

อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดขายต่อสาขาเดิมในปี 2560 จะเติบโตอยู่ที่ 2-3% และยอดขายจะเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติหลังปรับกลยุทธ์การขายสินค้าได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 เป็นต้นไป ขณะที่บรรยากาศการใช้จ่ายซื้อสินค้าของประชาชนในไตรมาสที่ 4/2559 นั้น คาดว่าจะยังซบเซาต่อเนื่อง เพราะประชาชนยังอยู่ในภาวะโศกเศร้า ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าได้รับผลกระทบจากบรรยากาศดังกล่าวเช่นกัน เสื้อผ้าที่จะขายในช่วงนี้ได้จะต้องเป็นเสื้อสีขาว และดำ ซึ่งมีปริมาณสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
กำลังโหลดความคิดเห็น