แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ ปรับเป้ารายได้เพิ่ม หลังได้รับใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้รักษาฐานลูกค้า และรายได้ 2G ไว้ได้ ยอมรับ EBITDA margin ช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรก เหตุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สวนทางรายได้จากการขายโทรศัพท์ที่ลดลง เล็งปรับนโยบายเงินปันผล หลังภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงอีกทั้งต้องเตรียมเงินไว้จ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ค่อนข้างสูง
นางสาวอาริยา ศิลากร ผู้จัดการส่วนงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า ปีนี้ ADVANC ได้ปรับประมาณการรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.56 แสนล้านบาท หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้า และรายได้ 2G เอาไว้ได้ โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้น 39 ล้านราย
ขณะเดียวกัน การที่ ADVANC การชนะประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากมีคลื่นความถี่เพียงพอในการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถให้บริการลูกค้าในระบบ 2G ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับระบบ 3G และ 4G เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเครือข่ายดิจิตอลอันดับ 1 ของเอไอเอส ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทุกๆ ด้าน เพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่า EBITDA margin ช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 41.30% ผลมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะรายได้จากการขายโทรศัพท์ลดลง จากเดิมที่คาดว่าจะคงที่ โดยครึ่งปีแรกรายได้จากการขายโทรศัพท์ลดลงไป 25% ขณะปีนี้จะขาดทุนจากการขายโทรศัพท์เป็นผลจากการทำโปรโมชันลดราคาขายลงค่อนข้างมาก ทำให้กำไรลดลง และมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ โดยครึ่งปีแรกอัตรากำไรของการขายโทรศัพท์ของบริษัทอยู่ที่ 0.9% แต่ภาพรวมในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจว่า EBITDA margin ทั้งปี 59 จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 38-39%
สำหรับการจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ในอัตรา 100% ของกำไรสุทธิอย่างที่ผ่านมาได้หรือไม่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ซึ่งบริษัทจะนำเรื่องนโยบายการจ่ายปันผลไปพิจารณาในแผน 3-5 ปี ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ เนื่องจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายในอนาคตยังเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในปี 63 ที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ค่อนข้างสูง
นางสาวอาริยา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด หรือ สิงเทล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ของ ADVANC จะเข้าซื้อหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในส่วนที่เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ถือหุ้นใหญ่อยู่ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และมองว่าเป็นโอกาสในการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทไม่สามารถระบุได้ว่า สิงเทล จะเข้าซื้อหุ้น INTUCH ตามที่เป็นข่าวหรือไม่
นางสาวอาริยา ศิลากร ผู้จัดการส่วนงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า ปีนี้ ADVANC ได้ปรับประมาณการรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.56 แสนล้านบาท หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้า และรายได้ 2G เอาไว้ได้ โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้น 39 ล้านราย
ขณะเดียวกัน การที่ ADVANC การชนะประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากมีคลื่นความถี่เพียงพอในการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถให้บริการลูกค้าในระบบ 2G ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับระบบ 3G และ 4G เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเครือข่ายดิจิตอลอันดับ 1 ของเอไอเอส ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทุกๆ ด้าน เพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่า EBITDA margin ช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 41.30% ผลมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะรายได้จากการขายโทรศัพท์ลดลง จากเดิมที่คาดว่าจะคงที่ โดยครึ่งปีแรกรายได้จากการขายโทรศัพท์ลดลงไป 25% ขณะปีนี้จะขาดทุนจากการขายโทรศัพท์เป็นผลจากการทำโปรโมชันลดราคาขายลงค่อนข้างมาก ทำให้กำไรลดลง และมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ โดยครึ่งปีแรกอัตรากำไรของการขายโทรศัพท์ของบริษัทอยู่ที่ 0.9% แต่ภาพรวมในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจว่า EBITDA margin ทั้งปี 59 จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 38-39%
สำหรับการจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ในอัตรา 100% ของกำไรสุทธิอย่างที่ผ่านมาได้หรือไม่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ซึ่งบริษัทจะนำเรื่องนโยบายการจ่ายปันผลไปพิจารณาในแผน 3-5 ปี ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ เนื่องจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายในอนาคตยังเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในปี 63 ที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ค่อนข้างสูง
นางสาวอาริยา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด หรือ สิงเทล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ของ ADVANC จะเข้าซื้อหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในส่วนที่เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ถือหุ้นใหญ่อยู่ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และมองว่าเป็นโอกาสในการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทไม่สามารถระบุได้ว่า สิงเทล จะเข้าซื้อหุ้น INTUCH ตามที่เป็นข่าวหรือไม่