บล. KTBST มองหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศหนุนให้ดัชนีปรับขึันต่อได้ แนะลงทุนสั้นในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์การกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (28 พ.ย.) ภาพของตลาดต่างประเทศนั้น นักลงทุนตอบรับในทางบวกต่อนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง แม้ค่าดอลลาร์สหรัฐจะเริ่มอ่อนค่าลงก็ตาม ขณะที่ราคาน้ำมันเป็นตัวแปรที่ไม่นิ่ง หลังซาอุฯ ปฏิเสธการเข้าประชุมกับผู้ผลิตรายอื่นที่จะประชุมในวันนี้ทำให้ตลาดต้องไปรอดูท่าทีของรัสเซีย และประเทศอื่นๆ ที่จะประชุมกันเองในวันนี้แทน ผลต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน จึงออกไปในทางลบ แต่จะเป็นบวกต่อผู้ผลิตปิโตรเคมีที่ได้อานิสงส์จากต้นทุนที่ต่ำ และสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังคงเป็นบวก
ทั้งนี้ ปัจจัยภายในประเทศ เช่นเดียวกับวันก่อน คือ การขายของนักลงทุนต่างประเทศยังเป็นตัวกดดันต่อตลาดหุ้นในวันนี้อยู่ต่อไป แต่จะมีผลต่อหุ้นขนาดใหญ่ที่ขาดปัจจัยบวก ขณะเดียวกัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดจะทยอยออกมาเรื่อยๆ ทั้งการลงทุน และการอัดฉีดเงินเข้าระบบ เป็นบวกต่อหุ้นขนาดกลาง-เล็กหลายๆ ตัว และผลประกอบการของตลาดโดยรวม ที่จะเป็นบวกตามไปด้วย
ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คาดว่าด้วยปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มทางบวกจะมีอิทธิพลต่อตลาดอยู่ ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อ แต่อาจมีกรอบจำกัด เนื่องจากความไม่ชัดเจนต่อทิศทางดอกเบี้ย (Fund Flow) และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
“กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำเก็งกำไรช่วงสั้นๆ หุ้นกลุ่มเด่นๆ เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หุ้นที่จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง (high dividend) และหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก (โดยปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน หรือกำลังจะดีขึ้น) หุ้นแนะนำสำหรับเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ ADVANC, DIF, GLOBAL, SMT มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,495-1,510 จุด”