บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ตลาดกำลังรอปัจจัยบวกใหม่ๆ จับตาการประชุม OPEC ในวันนี้ แนะกลยุทธ์รอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัว หุ้นเด่น LPH, HANA, TPIPL, SLP
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (30 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปคืนที่ผ่านมา (29 พ.ย.) แกว่งตัวในกรอบแคบ ตัวเลข GDP Q3 รายงานครั้งที่สองของสหรัฐฯ สูงขึ้นจาก 2.9% เป็น 3.2% หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น เรามองว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศกำลังรอปัจจัยใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าของการนำนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่ใช้ในการหาเสียงมาใช้ว่าจะทำอย่างไรบ้าง หรือการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ว่าจะขึ้นในลักษณะใด
ก่อนหน้าตลาดรับรู้ต่อเรื่องเหล่านี้มาระดับหนึ่งแล้ว หากไม่มีอะไรใหม่ๆ ตลาดจะเริ่มชะลอลง ขณะที่การลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลี ในวันที่ 4 ธ.ค. เป็นเรื่องที่มีผลต่อตลาดยุโรป และประเทศอื่นๆ ในทางอ้อม หากประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล (นายกฯ) ซึ่งจะเกิดความกังวลต่อทิศทางของประเทศ รวมไปถึงการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป ซึ่งการที่ระดับของ Bond Yield นั้นเริ่มทรงตัว บ่งชี้ว่า ตลาดกำลังรอข้อมูลใหม่ๆ ที่จะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน จะทำให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เพิ่มความระวังในการออกนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อไม่ให้สวนทางกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การประชุม OPEC ในเย็นวันนี้ (30 พ.ย.) ประเด็นที่ต้องตาม คือ 1.กลุ่ม OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลงจากปัจจุบัน 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่าใด ระหว่าง 0.6-1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน 2.ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC มีรายใดที่จะปรับลดกำลังผลิต และปรับลงเท่าใด 3.จะปรับลดเมื่อใด และยาวนานแค่ไหน และ 4.กลไกในการควบคุมการผลิตน้ำมัน โดยที่การเจรจาที่จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุผลได้ บอกถึงโอกาสที่จะลดกำลังการผลิตลงมากๆ นั้นว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถึงกระนั้น ตลาดก็ไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว เราประเมินว่า ถ้าลดน้อยกว่า 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐ แต่ถ้าลดมากกว่านี้จะขึ้นเป็น 50-55 เหรียญสหรัฐ
ส่วนปัจจัยในประเทศ อีกไม่นานน่าจะทราบกำหนดการของการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดการเดิม คือปลายปี 2560 ในส่วนของตลาดหุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศถึง 3.0 พันล้านบาท พลิกจากที่ซื้อไปในวันก่อน ทำให้นักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังในการเข้าซื้อหุ้นในวันนี้ เรื่องมาตรการลดภาษี 15,000 บาท สำหรับการท่องเที่ยวเป็นไปตามข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ และราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องต่างสะท้อนข่าวบวกนี้ไปบ้างแล้ว
ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้น คาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.ที่ชะลอตัว ลดน้ำหนักในทางบวกของตลาดลง ขณะที่นักลงทุนบางส่วนจะรอดูผลการประชุม OPEC ในช่วงเย็น และคาดว่าดัชนีฯ เมื่อสิ้นวันมีแนวโน้มที่จะลดลงจากวันก่อน
“ด้วยทิศทางตลาดที่อ่อนไหว และรอคอยปัจจัยใหม่ๆ การเข้าเก็งกำไรจึงต้องใช้ความระมัดระวัง นักลงทุนที่ต้องการเข้าถือเพื่อลงทุนแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง หุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเอง และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง หุ้นที่มองว่าน่าสนใจในวันนี้ ได้แก่ LPH, HANA, TPIPL, SLP มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,487-1,505 จุด”