ธอส. ยืน รมว.คลัง ขอแก้ไข พรบ.ในเดือน ม.ค.60 หวังเปิดทางให้บริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมได้ถึงประกันภัย ประกันชีวิต และการออกสลาก คาดการแก้กฏหมายใน สนช.จะเสร็จสิ้นได้ภายในกลางปี ย้ำการเงินอิเล็กทรอนิกส์ช่วยลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าได้สูงสุด 0.75%
ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคระห์ (ธอส.) กล่าวถึงทิศทางการทำงานของ ธอส. ว่าได้กำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการวางรากฐานระบบงานที่สำคัญคือใช้นวตกรรมนำองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยย้ำว่า การทำธุรกิจให้บริการทางการเงินที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยให้ต้นทุนของธนาคารลดลงจน ธอส. สามารถลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าได้ตั้งแต่
0.25-0.75%
นอกจากนี้ นายฉัตรชัย ยังกล่าวว่า ในเดือน ม.ค.60 ธอส.จะเตรียมเสนอ นายอดิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอแก้ไขพระราชบัญญัติ ธอส. ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดกว้างการทำธุรกิจให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย ครอบคลุมได้ถึงธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันอัคคีภัย และการออกสลาก อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการ ธอส. คาดหมายว่า การผลักดันเพื่อแก้ไขกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) น่าจะสำเร็จลุล่วงได้ภายในกลางปี 2560
สำหรับการทำธุรกิจประกันของ ธอส.ในอนาคตนั้น นายฉัตรชัย ยืนยันว่า จะเป็นไปในลักษณะของการร่วมทุนกับบริษัทประกัน โดย ธอส.จะเข้าถือหุ้นไม่เกิน 15% ทั้งนี้ มองว่า เนื่องจากในปัจจุบัน ธอส.มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกัน 1.7 แสนล้านบาท และผู้ขอสินเชื่อบ้านได้แล้วก็ควรมีประกันเอาไว้ด้วย ส่วนในอนาคต ธอส.จะตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับริษัทใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทใดสามารถเสนอผลตอบแทนที่ดีสุดให้กับ ธอส. และลูกค้าของ ธอส.
สำหรับในปี 2559 ธอส.ได้เริ่มนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ไปบ้างแล้ว อาทิ โมบายแอปพลิเคชั่น GH Smart Recieve หรือใบเสร็จรับชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิคส์ที่ลูกค้าสามารถรับได้ภายใน 24 ชม.
โดยปัจจุบันเปิดให้ลูกค้า ธอส.สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ทั้ง App Store และ Play Store แต่จะขยายการให้บริการส่วนนี้ให้ครอบคลุมลูกค้าของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ รวมทั้ง ธอส. ยังเปิดสาขา GH Bank Smart Branch 2 แห่ง คือ สาขาสมาร์ท สำนักงานใหญ่ และสาขาเมกา บางนา
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์หลักของ ธอส. เพื่อทดแทนระบบเดิมที่ใช้มานานถึง 10 ปีด้วย เพื่อสนับสนุนความสามารถในการรองรับธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิตอล โดยการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ หลังของ ธอส.ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ
ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคระห์ (ธอส.) กล่าวถึงทิศทางการทำงานของ ธอส. ว่าได้กำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการวางรากฐานระบบงานที่สำคัญคือใช้นวตกรรมนำองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยย้ำว่า การทำธุรกิจให้บริการทางการเงินที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยให้ต้นทุนของธนาคารลดลงจน ธอส. สามารถลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าได้ตั้งแต่
0.25-0.75%
นอกจากนี้ นายฉัตรชัย ยังกล่าวว่า ในเดือน ม.ค.60 ธอส.จะเตรียมเสนอ นายอดิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอแก้ไขพระราชบัญญัติ ธอส. ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดกว้างการทำธุรกิจให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย ครอบคลุมได้ถึงธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันอัคคีภัย และการออกสลาก อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการ ธอส. คาดหมายว่า การผลักดันเพื่อแก้ไขกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) น่าจะสำเร็จลุล่วงได้ภายในกลางปี 2560
สำหรับการทำธุรกิจประกันของ ธอส.ในอนาคตนั้น นายฉัตรชัย ยืนยันว่า จะเป็นไปในลักษณะของการร่วมทุนกับบริษัทประกัน โดย ธอส.จะเข้าถือหุ้นไม่เกิน 15% ทั้งนี้ มองว่า เนื่องจากในปัจจุบัน ธอส.มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกัน 1.7 แสนล้านบาท และผู้ขอสินเชื่อบ้านได้แล้วก็ควรมีประกันเอาไว้ด้วย ส่วนในอนาคต ธอส.จะตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับริษัทใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทใดสามารถเสนอผลตอบแทนที่ดีสุดให้กับ ธอส. และลูกค้าของ ธอส.
สำหรับในปี 2559 ธอส.ได้เริ่มนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ไปบ้างแล้ว อาทิ โมบายแอปพลิเคชั่น GH Smart Recieve หรือใบเสร็จรับชำระเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิคส์ที่ลูกค้าสามารถรับได้ภายใน 24 ชม.
โดยปัจจุบันเปิดให้ลูกค้า ธอส.สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ทั้ง App Store และ Play Store แต่จะขยายการให้บริการส่วนนี้ให้ครอบคลุมลูกค้าของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ รวมทั้ง ธอส. ยังเปิดสาขา GH Bank Smart Branch 2 แห่ง คือ สาขาสมาร์ท สำนักงานใหญ่ และสาขาเมกา บางนา
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์หลักของ ธอส. เพื่อทดแทนระบบเดิมที่ใช้มานานถึง 10 ปีด้วย เพื่อสนับสนุนความสามารถในการรองรับธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิตอล โดยการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ หลังของ ธอส.ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ