ธปท.หนุนสถาบันการเงินในประเทศปรับกลยุทธ์ธุรกิจรับฟินเทค เล็งตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจดูแลต้นปีหน้า โดยจะเน้นประโยชน์กับ ปชช.การลดต้นทุน ความปลอดภัยของระบบ การสร้างสรรค์สินค้าทางการเงินใหม่ๆ ความเสี่ยง และความรู้ของผู้ใช้บริการที่เพียงพอ
นางสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ยินดีสนับสนุนสถาบันการเงินภายในประเทศที่กำลังตื่นตัวกับการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ต่อยอดพัฒนาองค์กร ผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางการเงิน เนื่องจากปัจจุบัน การทำธุรกรรมการเงินทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก และเป็นกระแสที่ไม่อาจต้านทานได้
ทั้งนี้ ธปท.ในบทบาท และฐานะที่ต้องดูแลระบบเสถียรภาพทางการเงินภายในประเทศแล้ว ธปท.ยังให้ความสำคัญกับ 2 ประโยชน์ และ 2 ความ ได้แก่ 1.ต้องมีประโยชน์กับประชาชน ทั้งในแง่ความรวดเร็ว และปลอดภัย ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถวางใจเรื่องระบบได้ 2.ประโยชน์ในแง่ประสิทธิภาพในการลดต้นทุนของผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการ 3.มีประโยชน์ต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ และหลากหลาย
ส่วน 2 ความนั้น คือ 1.ความเสี่ยงในแง่การกู้ยืมของลูกค้าที่สถาบันการเงินต้องให้ความระมัดระวัง และอยู่ในระดับที่เพียงพอ 2.ความรู้ที่ผู้ใช้บริการต้องมีอย่างเพียงพอ
โดยก่อนหน้านี้ ธปท.ได้แถลงข่าวว่า จะเปิดศูนย์ทดสอบ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่นำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการให้บริการทางการเงิน (Reguratory Sandbox) ในช่วงต้นไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งให้ผู้ประกอบการ และผู้เล่นสนใจเข้ามทดสอบก่อนขอใบอนุญาตจริง