xs
xsm
sm
md
lg

อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป อวดกำไร 6 เดือน 778 ล.-ปันผล 10 สต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป เผยผลประกอบการ 6 เดือนเติบโตต่อเนื่องเผยกำไร 778 ล้านบาท จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท เดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพิ่มคุณภาพ 3 กลุ่มสินค้าหลัก AEROFLEX, AEROKLAS และ EPP บุกตลาดโลกเล็งศักยภาพกลุ่มประเทศ AEC ที่กำลังเติบโตสำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติก และฉนวนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เตรียมลงทุนเพิ่มเครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูงรองรับตลาดก่อสร้างที่คาดว่าจะเติบโตสูงในสหรัฐอเมริกา

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนของปี 2559/60 มีรายได้จากการขาย 4,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% มีกำไรสุทธิ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% จากงวด 6 เดือนของปีก่อนหน้าโดยไตรมาส 2 ปี 2559/60 (ก.ค.-ก.ย.2559) มีรายได้จากการขาย 2,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% และมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่สูงขึ้น

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ EPG จะเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออก และรายได้จากบริษัทย่อย และบริษัทร่วมในต่างประเทศเป็น 70% ภายในปี 2560/61 ปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 65% โดยขยายตลาดเน้นกลุ่มประเทศ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และ AEC ยังคงเน้น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วยธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น AEROFLEX จะมีการนำเทคโนโลยีการผลิตที่มีความเร็วสูงเข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยมีแผนการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท สำหรับฐานผลิตที่สหรัฐอเมริกาในปี 2560/61 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และทดแทนการใช้แรงงานคน ล่าสุด ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฉนวนกันไฟไหม้ ผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถป้องกันการลามไฟของสายไฟฟ้าภายในบ้านอาคาร และโรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS ได้พัฒนานวัตกรรมด้านการผลิต โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการใช้พลังงานการผลิตได้มากถึง 30% นับเป็นการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ AEROKLAS ได้ร่วมทุนกับ Alver Pty Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศออสเตรเลีย ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 160 ปี โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นในประเทศไทย เพื่อประกอบกิจการผลิต และจำหน่ายสินค้าประเภทชิ้นส่วนเหล็กขึ้นรูปให้กับ AEROKLAS และค่ายรถยนต์อื่น AEROKLAS ถือหุ้นในสัดส่วน 45% และ Alver Pty Ltd. ถือหุ้นในสัดส่วน 55%

ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP บริษัทให้ความสนใจตลาดในกลุ่มประเทศ AEC เป็นพิเศษ เชื่อว่า เป็นตลาดที่น่าสนใจ มีการขยายตัวเติบโตในทุกมิติ อีกทั้งลักษณะวัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ใกล้เคียงกับคนไทย โรงงาน EPP Phase 2 มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โรงงานดังกล่าวใช้การผลิตด้วยระบบเครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูงอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ EPP สามารถขยายฐานการจำหน่ายไปยังลูกค้าในต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการเติบโตของ EPG ในช่วงหลังจากนี้ หากมองทิศทางของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ ณ ปัจจุบัน ที่อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 3.2% ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นไปตามที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้

รศ.ดร.เฉลียว ได้เปิดเผยเพิ่มเติมถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2559/60 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท (10 สตางค์) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 280 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 และมีกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 ธันวาคม 2559 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ถือหุ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น