คาดบ่ายดัชนีฯ น่าจะแกว่งตัวในแดนลบต่อเนื่อง

ปิดตลาดครึ่งเช้าวันแรกของสัปดาห์ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลง 17.87 จุด ที่ 1,476.66 จุด เปลี่ยนแปลง -1.20% มูลค่าการซื้อขาย 28,895.96 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ มีแรงขายหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ฉุด SET index ตั้งแต่เปิดเทรด โดยเฉพาะ PTT ที่รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ 2.69 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 2.66 หมื่นล้านบาท และสูงกว่านักวิเคราะห์ที่คาดกำไร 2.5 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักหนุนผลประกอบการมาจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ทยอยลดลงตามราคาน้ำมันตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากการขายผลิตภัณฑ์จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีกลับมาคลื่อนไหวในแดนลบอีกครั้ง ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับปัจจัยลบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าดัชนีฯ น่าจะแกว่งตัวในแดนลบต่อเนื่อง แถวบริเวณกรอบ 1,470-1,493 จุด หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยที่สนับสนุนมากเท่าไหร่นัก ขณะที่แนะนำต้องติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจมีความเห็นต่อทิศทางดอกเบี้ย

สอดคล้องกับฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุตลาดทุนทั่วโลกน่าจะแกว่งสักระยะหนึ่ง เพื่อหาจุดสมดุลย์ใหม่ ส่วนตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดัน ประกอบกับระดับ Valuation ตลาดหุ้นไทยที่มี Expected P/E สูงถึง 16.8 เท่า รวมทั้งแรงขายในหุ้นรับการประกาศไตรมาส 3/59 น่าจะทำให้ SET Index อยู่ในภาวะที่ทรงกับลง

กลยุทธ์การลงทุน จึงยังแนะนำสะสมหุ้นผันผวนต่ำ เงินปันผลสูง เช่น ASK, TMT รวมทั้งหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 4Q 59 เติบโตโดดเด่น เช่น WHA, ASK และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ เช่น BJC รวมทั้งหุ้นในกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP ที่อาจได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีจากโอกาสที่ OPEC จะร่วมมือกันควบคุมการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.นี้