พฤกษาฯ เร่งเครื่องโค้งสุดท้ายปลายปีลุยเปิด 20 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท หวังดันยอดขายตามเป้า 5.1 หมื่นลานบาท พร้อมปรับเป้ารายได้ทั้งปีเหลือ 5.1 หมื่นล้านบาท ระบุไตรมาส 4 ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวหลังประชาชนอยู่ในช่วงไว้อาลัยฯ คาดตลาดอสังหาฯปี 59 ติดลบ 5%
พฤกษาฯ เร่งเครื่องเปิด 20 โครงการใหม่ หวังดันยอดขายปี 59 ตามเป้า 5.1 หมื่นล้าน
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วง 10 เดือนของปีนี้ จำนวน 3.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 5.1 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทได้ปรับแผนด้วยการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 จำนวน 18-20 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 18-19 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ซึ่งทำให้โครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 70-72 โครงการ มูลค่ารวม 6.01-6.73 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายเดิมเปิด 60-65 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5-5.5 หมื่นล้านบาท
“การเปิดโครงการที่เพิ่มขึ้น จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ยอดขายของบริษัทสามารถทำได้ตามเป้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการในไตรมาส 3/59 ที่เปิดไป 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.24 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มีการเปิดในช่วงท้ายเดือนกันยายนเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดขายที่จะได้จากโครงการเหล่านี้มาอยู่ในไตรมาส 4” นายเลอศักดิ์ กล่าว
ลดเป้ารายได้เหลือ 5.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับรายได้ของบริษัทในปีนี้ได้มีการปรับลดเป้าหมายรายได้ลงมาเหลือ 5.1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ 5.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เหมือนกับในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับแนวโน้มในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าการโอนจะไม่เป็นไปตามภาวะปกติที่ไตรมาสสุดท้ายของปีจะต้องมีการโอนโครงการจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงไว้อาลัยอาจทำให้ลูกค้าชะลอการโอนออกไปก่อน ประกอบกับบริษัทไม่สามารถทำกิจกรรมกระตุ้นการโอนได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท อีกทั้งการปรับโครงสร้างบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการโอนย้ายหน้าที่ และการรับผิดชอบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานล่าช้า โดยรายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวน 3.29 หมื่นล้านบาท และปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอนอยู่ที่ 2.76 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 1.03 หมื่นล้านบาท
ส่วนกระบวนการนำหุ้น PS ไปแลกหุ้นบริษัทพฤกษา โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ และจะนำพฤกษา โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แทน PS ภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยธุรกิจใหม่ของบริษัทโฮลดิ้งส์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา โดยจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ และมีรายได้ประจำเข้ามา ซึ่งคาดว่าอาจจะเห็นความชัดเจนภายในปี 60 แต่สัดส่วนรายได้ของ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้งส์ ในปี 60 นั้น จะยังมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของ PS เกือบ 100%
คาดตลาดอสังหาฯ ปี 59 ติดลบ 5%
นายประเสริฐ แด่ดุลยสาธิต กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจพรีเมียม บริษัทพฤกษาฯ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 คาดว่าจะทรงตัวถึงติดลบ 5% เนื่องจากประชาชนอยู่ในช่วงไว้อาลัย ทำให้ไม่สามารจัดกิจกรรมการตลาด และการประชาสัมพันธ์โครงการใหม่ๆ ได้ ผู้ประกอบการหลายรายเลื่อนเปิดโครงการใหม่ไปเป็นปี 2560 แทน จากเดิมที่ประกาศเปิดโครงใหม่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจำนวนมาก ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้พลิกกลับมาเป็นทรงตัวถึงติดลบ 5% หรือมูลค่าตลาดราว 3-3.3 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาดรวมที่ 3.48 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2560 ตลาดอสังหาฯ จะสามารถกลับมาฟื้นตัว หลังจากที่ชะลอตัวในปีนี้ ผู้ประกอบการจะกลับมาเดินหน้าธุรกิจอีกครั้ง และมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ประกอบกับคลายความกังวลจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนต่างๆ มีความชัดเจนให้เห็นชัดแล้วในปีนี้ ซึ่งปี 2560 จะเป็นปีที่ผู้ประกอบจะปรับโครงสร้างภายในองค์กรมากขึ้น เพื่อเตรียมการลงทุน และการก้าวไปสู่การเติบโตอีกขั้นของธุรกิจ หลังจากผ่านช่วงที่มีความผันผวน และความไม่แน่นอนไปแล้ว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ในปี 60 บริษัทจะรุกเข้าไปในตลาดอสังหาระดับบนอย่างจริงจัง และมากขึ้น ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ซึ่งรูปแบบการพัฒนาโครงการจะเป็นรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยระดับบน โดยแต่ละโครงการจะมีการออกแบบ และสไตล์ที่แตกต่างกัน และมีจำนวนยูนิตขายไม่มาก โดยจะเป็นครั้งแรกที่บริษัททำโครงการที่มีราคาขายเฉลี่ย 2.5-3 แสนบาท/ตารางเมตร จากปัจจุบัน ราคาขายโครงการระดับบนสูงสุดของบริษัทอยู่ที่ 1.5 แสนบาท/ตารางเมตร
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนการเปิดโครงการระดับพรีเมียมในปี 60 ไว้จำนวน 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ ซึ่งบริษัทได้ซื้อที่ดินไว้รองรับหมดแล้ว ได้แก่ ทองหล่อ เอกมัย พญาไท และพหลโยธินตอนต้น ซึ่งการรุกตลาดพรีเมียมอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 60 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการก้าวไปอีกขั้นของบริษัทในการสร้างการเติบโต และขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มพรีเมียมใน 3-5 ปีข้างหน้าเป็น 10-12% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มพรีเมียมต่ำกว่า 5% และตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินค้ากลุ่มพรีเมียมของบริษัทเป็น 20-30% ภายใน 3 ปี