“เซ็ปเป้” โชว์รายได้ไตรมาส 3 ทำกำไรสุทธิเติบโต 63.9% หลังประสบความสำเร็จในการรุกตลาดต่างประเทศที่มียอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และบริหารการจัดการด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนภาพรวม 9 เดือนแรก ทำกำไรสุทธิเติบโต 20.5% ด้านผู้บริหารมองปัจจัยภายในประเทศ กระทบแผนดำเนินงานจากภาวะตลาดเครื่องดื่มที่ทรงตัว คาดทั้งปีโต 10%
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 (กรกฎาคม-กันยายน 2559) ว่า บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิ 89.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 54.3 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งสิ้น 664.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยจากการขยายตัวของตลาดส่งออกในต่างประเทศที่เติบโตได้ดีตามแผนที่วางไว้ ประกอบกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนกระบวนการผลิตของฝ่ายโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยสนับสนุนประกอบการของ SAPPE เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2559) ที่บริษัทฯ ทำรายได้รวม 2,105.8 ล้านบาท เติบโต 10.06% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,913.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 301.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 250.2 ล้านบาท
“เราให้ความสำคัญกับการขยาย และเติบโตในตลาดต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดที่เราเคยขยายตลาดได้ดี และมีศักยภาพ ซึ่งในปีนี้เราประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่างประเทศในภาพรวม โดยเฉพาะกับประเทศจีน และอินโดนีเซีย ที่สามารถผลักดันยอดขายกลับมาเติบโตได้ตามที่วางแผนไว้ หลังจากได้ร่วมกับคู่ค้าทำกิจกรรมการตลาด เพื่อผลักดันยอดขาย รวมถึงการกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางการจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลให้ตลาดต่างประเทศของเราในไตรมาสนี้เติบโตได้กว่า 30%” นางสาวปิยจิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศ จำเป็นต้องมีการปรับแผนกิจกรรมการตลาด โดยมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนแผนดำเนินงานด้านกิจกรรมการตลาดทั้งหมด ที่เบื้องต้นกำหนดไว้ว่า จะดำเนินการในไตรมาส 4/59 ออกไปเป็นต้นปี 2560 แทน ทั้งนี้ รวมถึงส่วนของการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดต่างประเทศ แม้จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่คาดว่ายอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ จึงคาดการณ์ภาพรวมรายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตได้ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
