xs
xsm
sm
md
lg

“SAPPE” ตั้งเป้ารายได้ปี 59 คาดโต 15% ฟันรายได้ไตรมาสแรกพุ่ง 7%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้  หรือ SAPPE
“เซ็ปเป้” เผยรายได้ไตรมาส 1/59 เติบโต 7% หลังตลาดหลักอย่างประเทศจีน และอินโดนีเซียพลิกฟื้นในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมลุยทำกิจกรรม ณ ช่องทางขายช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ด้านผู้บริหารตั้งเป้าปีนี้โต 15% รับเล็งหาพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในจีนเพิ่มเติม ขณะที่ตลาดในประเทศยันเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานไม่กระทบ

น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SAPPE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ ทำรายได้รวม 605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 567 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิของบริษัทใหญ่ 68 ล้านบาท โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากตลาดต่างประเทศที่เติบโตดี โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างประเทศจีน และอินโดนีเซีย ที่มียอดขายเติบโตขึ้น หลังจากที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนได้กระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายไปถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อภาพรวมในไตรมาสแรกปีนี้

ขณะที่ตลาดในประเทศอินโดนีเซีย ก็กลับมามียอดขายเติบโตที่ดี โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 51% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากเศรษฐกิจอินโดนีเซียฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในอินโดนีเซียทำกิจกรรมการตลาด ณ ช่องทางขาย รวมถึงจัดชั้นวางสินค้าเพื่อสร้างความโดดเด่นให้แก่ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดีมากขึ้น ส่วนตลาดในประเทศนั้นบริษัทฯ มีการจัดแคมเปญกิจกรรมการตลาดพร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่รับฤดูกาลขายสินค้า ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายของ SAPPE เติบโตได้ดีขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยมาจากยอดขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีประเทศจีน และอินโดนีเซียที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 จากกิจกรรมทางการตลาดที่ออกไปในช่วงหน้าร้อน แม้จะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางการขาย และการตลาดในไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่ระดับค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งปีจะยังคงอยู่ในงบประมาณเดิมที่วางไว้

ทั้งนี้ กรณีเรื่องภาษีสรรพสามิต แม้ภาครัฐมีแนวคิดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมน้ำตาลเกินมาตรฐาน โดยการจัดเก็บมี 2 อัตรา ได้แก่ 20% และ 25% นั้น แต่เชื่อว่าจากนโยบายดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางการดำเนินงานของ SAPPE เนื่องจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ทำตลาดในประเทศ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟผงสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์เพรียว คอฟฟี่ และกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์ ภายใต้แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้ง นั้น เป็นแบรนด์หลักในการทำการตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจัดเก็บภาษีดังกล่าว โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟมีการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบการเกษตรภายในประเทศ ในขณะที่กลุ่มฟังก์ชันนอล ดริงก์ อย่าง เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้ง นั้น ไม่ใช้น้ำตาลเป็นสารให้ความหวาน จึงไม่เข้าเกณฑ์การเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น