ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 จับกุมบุหรี่ และเหล้าเถื่อนรวมมูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท
วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 1 กรมสรรพสามิต นำโดย นายวิวัตน์ เขาสกุล ผอ.สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 นายธนาชัย รอดศิริ สรรพสามิตพื้นที่สงขลา และนายทวีป จิตตะนัง สรรพสามิตพื้นที่สงขลา เข้าตรวจค้นภายในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 121/72 ถนนนวลแก้วอุทิศ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายเหล้า และบุหรี่
ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดบุหรี่ จำนวน 3,197 ซอง และสุราต่างประเทศ จำนวน 239 ขวด รวมมูลค่าอัตราโทษปรับกว่า 2.5 ล้านบาท และควบคุมตัวผู้ต้องหา 1 คน คือ น.ส.กฤษณา จองเดิน อายุ 25 ปี เจ้าของร้านดำเนินคดีในข้อหามีไว้เพื่อขายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สภ.หาดใหญ่
สำหรับการจับกุมบุหรี่ และเหล้าหนีภาษีในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามบุหรี่ และเหล้าหนีภาษี ของอธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าบุหรี่ และเหล้าต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย หลังรัฐบาลประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตส่งผลให้มีการปรับราคาบุหรี่ในอัตราที่สูงขึ้น ทำให้มีผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายทะลักเข้ามาตามแนวชายแดน และขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากบุหรี่ต่างๆ ประเทศที่จำหน่ายอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้มีอัตราส่วนต่างของราคาถูกมากราคาเพียงซองละ 20-25 บาท จึงเป็นแรงงจูงใจให้มีการลักลอบนำเข้าเพราะเป็นที่นิยมของนักสูบ และขณะนี้ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ บรรดาร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่และเหล้าที่ลักลอบนำเข้าต่างปิดตัว หรือปรับเปลี่ยนวิธีจำหน่ายโดยการปิดร้านแต่จะมีช่องลับที่เป็นที่รู้กันของลูกค้า และเจ้าของร้านเท่านั้น เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างหนักโดยเฉพาะโรงงานยาสูบจึงจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐในวงเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท
สำหรับเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลในการปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมาย โรงงานยาสูบจะจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ทหาร ทั่วประเทศ ที่สามารถจับกุมบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายจำนวนซองละ 3 บาท หรือหีบละ 1,500 บาท หากจับกุมได้ครบทั้งหีบ (500 ซอง) จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท และกรณีที่จับกุมได้ครั้งละ 50 หีบ (25,000 ซอง) ไม่ว่าจะมีตัวผู้ต้องหาหรือไม่มีตัวผู้ต้องหาก็ตาม โรงงานยาสูบจะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 50,000 บาท/50 หีบ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 175,000 บาท ทั้งนี้ต้องสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ 3 หีบขึ้นไปจึงจะเข้าเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลตามโครงการนี้
ซึ่งโครงการเพิ่มงบประมาณสนับสนุนเงินรางวัลได้ดำเนินการแล้วทันทีหลังจากรัฐบาลประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 รวมระยะเวลาประมาณ 8 เดือน และหากสามารถปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายให้ลดลงได้อย่างต่อเนื่องก็อาจจะขยายโครงการนี้ต่อไปในอนาคต โดยคาดหวังว่าจะทำให้จำนวนบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศมีปริมาณลดลง และช่วยภาครัฐไม่ให้สูญเสียรายได้ในระยะยาวต่อไป
