xs
xsm
sm
md
lg

สมาร์ทคอนกรีต คาดครึ่งปีหลังสดใส แม้ไตรมาสแรกขาดทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมาร์ทคอนกรีต คาดครึ่งปีหลังตลาดอิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มลงทุนโครงการใหม่ เผยการแข่งขันด้านราคารุนแรงต่อเนื่อง เดินหน้าปรับกลยุทธ์ดันกำไร ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมสร้างแบรนด์ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่ตลาด AEC เดินหน้าเจรจาตัวแทนในลาว พม่า เวียดนาม ขณะที่ตลาดกัมพูชา ออเดอร์ดีต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกรายได้รวม 77.125 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 8.816 ล้านบาท

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า ทิศทางภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตามการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ทยอยเริ่มดำเนินโครงการ และส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กลับมาลงทุนในโครงการใหม่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดอิฐมวลเบายังอยู่ในระดับที่รุนแรง โดยมีการลดราคาเพื่อแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต โดยเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ตอนบน และมีแผนขยายการจำหน่ายให้ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ยังเน้นการสร้างแบรนด์ “SMART บล็อกเย็น” ให้เป็นที่รู้จัก ได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มผู้ใช้งานทั่วประเทศ ในฐานะอิฐมวลเบาที่มีมาตรฐานการผลิต และมีคุณภาพการใช้งานสูง มีความคุ้มค่าทั้งในด้านการก่อสร้าง และการอยู่อาศัย โดยล่าสุด บริษัทได้จัดกิจกรรมการตลาดออกบูทเพื่อแนะนำสินค้าในงานสถาปนิก’59 ที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศ AEC ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ลาว พม่า เวียดนาม ขณะที่ในประเทศกัมพูชา บริษัทได้เข้าไปจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว โดยมีออเดอร์คำสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปี 2559 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 3-4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2559 ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา โดยรายได้รวมงวดไตรมาส 1/2559 อยู่ที่ 77.125 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 86.452 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 10.79% และมีผลขาดทุนสุทธิ 8.816 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก เชื่อมั่นต่อกลุ่มลูกค้า เพิ่มจำนวนรถขนส่งเพื่อการบริการที่รวดเร็ว และครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นมีการปรับตัวลดลง และเกิดเป็นขาดทุนสุทธิจำนวนดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น