xs
xsm
sm
md
lg

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นไทยผันผวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นไทยวันนี้ตลาดยังรับปัจจัยลบจากต่างประเทศ แนะชะลอลงทุนในหุ้นใหญ่ที่ไม่ได้มีปัจจัยบวก และลงทุนเก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นที่เป็นบวกรายตัว หุ้นที่แนะนำ BANPU, IVL, NDR, TSE, HPT

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST (Win Udomrachtavanich, Ph.D. Executive Chairman KTB Securities (Thailand ) Co., Ltd.) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC คณะกรรมการตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ โดยมีการระบุว่า จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งตลาดตีความว่า Fed น่าจะปรับขึ้นเดือน ธ.ค. หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. จาก Fed Fund Futures Probability ของการประชุมเดือน ธ.ค. สูงถึง 78.0%
 
อย่างไรก็ตาม ผลประชุม FOMC นั้น กลับกลายเป็นปัจจัยรองไปเลย อาจเป็นเพราะตลาดคาดอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ใหญ่กว่า และมีผลต่อตลาดในคืนที่ผ่านมา คือ การที่ FBI เข้าตรวจสอบ email ของนางฮิลลารี ที่อาจทำให้นายทรัมป์ พลิกมามีคะแนนนำ (poll) ถึงกับเอาไปเทียบว่า จะสร้างความปันป่วนให้กับตลาด FX มากกว่าผลของ Brexit หากทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งจะเป็นเหตุให้นักลงทุนต่างปรับพอร์ตเพื่อรับมือ

ดังนั้น ในวันนี้ภาพตลาดหุ้นต่างประเทศน่าจะออกมาในทางที่เป็นลบ ส่วนราคาน้ำมันดิบความหวังเรื่องลดการผลิตน้ำมันที่จะตัดสินใจ 30 พ.ย. มีน้อยลง บวกกับตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่รายงานโดย EIA เพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรล จะกดราคาน้ำมันดิบ WTI ไว้

สำหรับปัจจัยในประเทศไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ แต่ปัจจัยเดิมๆ คือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ และเก็งงบไตรมาส 3 ยังเป็นตัวบวกของตลาด แต่วันนี้ปัจจัยลบต่างประเทศมีมากกว่า เลือกตั้งสหรัฐฯ กับน้ำมัน จึงมีโอกาสที่ดัชนีฯ จะปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนต่างประเทศ หรือสถาบันฯ ขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตลาดจะมีผันผวนมาก จากที่นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นบางตัว

“สิ่งที่เราสังเกตเห็นวานนี้ คือ หุ้นกลุ่มใหญ่ ในกลุ่มเดียวกัน บางตัวเป็นบวก บางตัวเป็นลบ แต่ฝั่งลบมีน้ำหนักมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นกันบ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่ถ้าปรับตัวลงหรือขึ้นมักจะไปในทางเดียวกัน แต่นั่นเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนไม่ได้มองตลาดไทยแย่มาก และมีการเลือกซื้อในหุ้นเป็นรายตัวไป โดยตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาด จะเป็นในความคืบหน้าในกรณี email ของนางฮิลลารี การคาดการณ์ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษเย็นวันนี้ (3 พ.ย.) และราคาน้ำมัน”

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แม้จะผ่านการประชุม FOMC ไปแล้ว แต่ความเสี่ยงเรื่องผลเลือกตั้งสหรัฐฯ จะเป็นตัวกดดันตลาด เราแนะนำชะลอการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีปัจจัยบวกหนุน และเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เน้นข่าวบวกรายตัว รวมทั้งหุ้นที่มีการเก็งผลประกอบการ 3Q และหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หุ้นที่แนะนำ BANPU, IVL, NDR, TSE, HPT มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,490-1,507 จุด”


กำลังโหลดความคิดเห็น