วานนี้หุ้นของบ้านปู เพาเวอร์ เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ 24.90 บาท จากราคาจองซื้อ IPO ที่หุ้นละ 21 บาท ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 27.25 บาท ต่ำสุดที่ 24.70 บาท และเมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 6.25 บาท คิดเป็น 29.76% มูลค่าซื้อขาย 10,034,822.88 ล้านบาท
นายวรวุฒิ ลีนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า ราคาหุ้น BPP ที่เปิดตลาดวันนี้ (28 ต.ค.) สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO จะนำไปใช้คืนหนี้บริษัทแม่ คือ บ้านปู 1.2 หมื่นล้านบาท และที่เหลืออีก 1 พันกว่าล้านบาท ก็จะใช้ลงทุน และเงินทุนหมุนเวียน เพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าครบ 4.30 พันเมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 1.91 พันเมกะวัตต์ มีสัดส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 1 พันเมกะวัตต์ โดยจะเน้นการพัฒนาโครงการในต่างประเทศทั้งจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว เป็นต้น
สำหรับเงินลงทุนในช่วงปี 2560-2561 จะใช้เงินลงทุน 70-75 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วงปี 2561-2568 จะใช้เงินลงทุนอีก 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1.8 พันเมกะวัตต์
ทั้งนี้ BPP มีทุนชำระแล้ว 30,456.92 ล้านบาท มูลค่าตราไว้หุ้นละ 10 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 2,397.19 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 648.49 ล้านหุ้น โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นบ้านปู เฉพาะกลุ่มที่ได้รับจัดสรรหุ้น 210 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน 438.49 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 21 บาท มีมูลค่าการระดมทุนรวม 1.36 หมื่นล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ 6.39 หมื่นล้านบาท โดยบ้านปู ถือหุ้นใหญ่ 78.71%
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจบ้านปู หลังปรับแผนกลยุทธ์ที่มีทั้งธุรกิจต้นน้ำ คือ เหมืองถ่านหิน และ Shale Gas ธุรกิจขั้นกลาง คือ การขนส่งถ่านหิน และธุรกิจปลายน้ำ คือ โรงไฟฟ้า โดยมองว่า ธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยราคาถ่านหินปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 102 เหรียญสหรัฐ/ตัน ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่เคยต่ำ 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ดังนั้น นโยบายบริษัทจะทยอยขายถ่านหินอิงตามดัชนีราคาตลาด โดยคาดว่าราคาถ่านหินตลาดโลกปีหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกิน 75 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีราคาเฉลี่ย 55 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจากความต้องการใช้ถ่านหินในจีน และกำลังการผลิตถ่านหินที่ลดลงจากการปิดเหมือง และบางเหมืองลดกำลังการผลิตลง
ส่วนการลงทุนธุรกิจ Shale Gasที่สหรัฐฯ นั้น ขณะนี้บริษัทได้มีการศึกษาข้อมูลแหล่งผลิต Shale Gas/Shale Oil ในสหรัฐฯ เพิ่มเติม เพื่อหาโอกาสที่จะมีการลงทุนเพิ่มในธุรกิจนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ บ้านปู ได้เข้าไปลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนด้วยการถือหุ้นในสัดส่วน 29.4% ในสินทรัพย์ Chaffee Corners Joint Exploration Agreement (JEA) ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ มีแหล่งผลิตอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแหล่ง Mercellus Shale ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐฯ มูลค่าการลงทุน 112 ล้านเหรียญสหรัฐ
