ผู้ว่าการ ธปท.แนะคนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริฯ มาปฏิบัติเพื่อพัฒนา ศก.อย่างยั่งยืน

ผู้ว่าการ ธปท. แนะคนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริฯ มาปฏิบัติเพื่อพัฒนา ศก.อย่างยั่งยืน ท่ามกลางปัญหา และความท้าทายที่มากขึ้น ซึ่งเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในงาน Thailand's Economic Outlook 2017 โดยระบุว่า ภายใต้ปัญหา และความท้าทายของโลกที่จะรุนแรง และซับซ้อนขึ้นนั้น หลายประเทศต่างหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะตระหนักว่า หากไม่รีบปรับตัวโดยเร็วแล้ว การแก้ไขปัญหาต่างๆ ในภายหลังจะยากขึ้นมาก หรือไม่สามารถทำได้เลย ซึ่งประเทศไทยถือว่าโชคดีอย่างยิ่งที่ได้รับพระราชทานองค์ความรู้ และหลักคิดเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาโดยตลอด ซึ่งองค์ความรู้ และหลักคิดเรื่องที่พระราชทานให้แก่พวกเรานั้น เป็นองค์ความรู้ และหลักคิดที่ผ่านกระบวนการทดสอบจากการปฏิบัติจริงมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา

“พระองค์ท่านไม่ได้พระราชทานเพียงแค่องค์ความรู้ หรือหลักคิดไว้ให้คนไทยเท่านั้น แต่ได้ทรงดำรงพระชนม์ชีพ และทรงงานพัฒนาไว้เป็นต้นแบบที่เราสามารถน้อมนำมาปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเราทุกคนได้อย่างไม่มีข้อสงสัย” นายวิรไท กล่าว

โดยองค์ความรู้ หลักคิด และต้นแบบการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีอย่างน้อย 3 มิติสำคัญที่ควรร่วมกันยึดถือปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศไทย และพัฒนาให้สังคม และเศรษฐกิจไทยเจริญขึ้นอย่างยั่งยืน กล่าวคือ มิติแรก การยกระดับศักยภาพการผลิตของเราให้สูงขึ้น ทั้งในระดับบุคคล สังคม และประเทศ โดยอาศัยพลังแห่งความเพียร ความอดทน ความร่วมมือกัน และการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญของการพัฒนา มิติที่สอง การพัฒนาอย่างยั่งยืนจะต้องมีเสถียรภาพ และมิติที่สาม คือ การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างทั่วถึง หรือพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งประเทศ

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน แม้จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ถือว่ามีความมั่นคงมากกว่าประเทศอุตสาหกรรมหลัก และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีกันชนเป็นภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถรองรับแรงปะทะจากความผันผวนภายนอกได้ ระบบสถาบันการเงินมีความเข้มแข็ง การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ รัฐบาลมีฐานะการคลังที่ดี และกำลังเดินหน้าการปฏิรูปเศรษฐกิจในหลายด้าน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการยกระดับศักยภาพ และผลิตภาพของประเทศไทย

“คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจ และสังคมไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทาย ความไม่แน่นอน และความผันผวนจากปัจจัยทั้งภายใน และภายนอกประเทศอีกมาก จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตต่ำเกินไปต่อเนื่องนานเกินไป และมีคนจำนวนน้อยเกินไปที่ได้รับประโยชน์” นายวิรไท กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า หลักคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานไว้ จะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ชีวิตของแต่ละคนมีความปลอดภัย มีความเจริญ มีความสุข และเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ดังพระบรมราโชวาทที่ว่า “ถ้าทุกคนยึดมั่นว่า เราต้องช่วยกัน และต้องพยายามที่จะปฏิบัติงานของตน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ด้วยความตั้งใจดี ด้วยความเอาใจใส่ดีในหน้าที่ของตน เชื่อได้ว่า ส่วนรวมจะอยู่ได้อย่างมั่นคง และถาวรแน่”