ผู้ว่าฯ ธปท.เผยยังคงประมาณการส่งออกปีนี้ติดลบ 2.5% เนื่องจาก ศก.โลก และตลาดส่งออกหลักยังเปราะบาง ส่วนแนวโน้มในปี 60 คาดติดลบ 0.5% ส่วนกรณีเอดีบี ปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 59 เติบโตจาก 3.0% เป็น 3.2% สอดคล้องกับตัวเลขของ ธปท.ที่ได้ปรับเพิ่มจีดีพีของไทยก่อนหน้านี้
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวภายหลังปาฐกถาพิเศษ “Thailand agenda 2030 : วิสัยทัศน์การพัฒนาใหม่สู่ประเทศไทย” ในงาน “Thailand SDGs Forum # 3 Thailand sustainability journey” ถึงตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2559 ที่ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 6.5 ซึ่งเป็นการบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยระบุว่า ถือเป็นข่าวดีที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังต้องติดตามการส่งออกเดือนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง และต้องมองระยะยาว เพราะยังต้องระมัดระวังตลาดต่างประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง ไม่กระจายตัว บางตลาดมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และบางตลาดคำสั่งซื้อทรงตัว ซึ่ง ธปท.ยังคงประมาณการส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 2.5 ส่วนปีหน้าติดลบร้อยละ 0.5
ส่วนกรณีที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 2559 จากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 3.2 นั้น สอดคล้องกับ ธปท.ได้ปรับเพิ่มจีดีพีไทยก่อนหน้านี้ที่ว่า จะขยายตัวร้อยละ 3.2 จากเดิมร้อยละ 3.1 ซึ่งยังต้องจับตาการบริโภคในประเทศว่าจะขยายตัวดีหรือไม่ ซึ่งการจะทำให้การบริโภคขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องมีหลายมาตรการ โดยต้องมีการสร้างความมั่นใจว่า ประชาชนจะมีรายได้มั่นคง และส่งเสริมให้มีการจ้างงาน และการลงทุนมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการแก้กฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ส่วนการที่แรงงานขอปรับขึ้นค่าแรงเป็น 360 บาทต่อวัน หากมีการปรับขึ้นจริงจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่จะกระตุ้นการบริโภคดีแค่ไหน จะต้องติดตามต่อไป
นายวิรไท กล่าวด้วยว่า การพัฒนาเศรษฐกิจจะดูแต่ตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน และการแก้ปัญหาระยะกลาง ระยะยาว เพื่อจะให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยโตได้ตามศักยภาพ โดยต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหากับดักเชิงโครงสร้างหลายด้าน ทั้งระดับความสามารถทางเทคโนโลยีที่ต่ำลง การขาดประสิทธิภาพของระบบราชการ โครงสร้างประชากรมีข้อจำกัด จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น คาดว่าในอีก 15 ปีข้างหน้า ประชากรไทย 4 คนจะมีผู้สูงอายุ 1 คน ดังนั้น รัฐบาล และพรรคการเมืองต้องให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ และรีบแก้ปัญหาให้หลุดจากกับดักดังกล่าว ก่อนที่สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น