นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2559 ที่ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 6.5 ซึ่งเป็นการบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ว่า ถือเป็นข่าวดีที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังต้องติดตามการส่งออกเดือนที่เหลืออย่างต่อเนื่องและต้องมองระยะยาว เพราะยังต้องระมัดระวังตลาดต่างประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง ไม่กระจายตัว บางตลาดมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและบางตลาดคำสั่งซื้อทรงตัว ซึ่ง ธปท.ยังคงประมาณการส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 2.5 ส่วนปีหน้าติดลบร้อยละ 0.5
ส่วนกรณีที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 2559 จากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 3.2 นั้น สอดคล้องกับที่ ธปท.ได้ปรับเพิ่มจีดีพีไทยก่อนหน้านี้ ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.2 จากเดิมร้อยละ 3.1 ซึ่งยังต้องจับตาการบริโภคในประเทศว่าจะขยายตัวดีหรือไม่ ซึ่งการจะทำให้การบริโภคขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องมีหลายมาตรการ โดยต้องมีการสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะมีรายได้มั่นคงและส่งเสริมให้มีการจ้างงาน การลงทุนมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการแก้กฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ส่วนการที่แรงงานขอปรับขึ้นค่าแรงเป็น 360 บาทต่อวัน หากมีการปรับขึ้นจริงจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่จะกระตุ้นการบริโภคดีแค่ไหนจะต้องติดตามต่อไป
ส่วนกรณีที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 2559 จากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 3.2 นั้น สอดคล้องกับที่ ธปท.ได้ปรับเพิ่มจีดีพีไทยก่อนหน้านี้ ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.2 จากเดิมร้อยละ 3.1 ซึ่งยังต้องจับตาการบริโภคในประเทศว่าจะขยายตัวดีหรือไม่ ซึ่งการจะทำให้การบริโภคขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องมีหลายมาตรการ โดยต้องมีการสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะมีรายได้มั่นคงและส่งเสริมให้มีการจ้างงาน การลงทุนมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการแก้กฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ส่วนการที่แรงงานขอปรับขึ้นค่าแรงเป็น 360 บาทต่อวัน หากมีการปรับขึ้นจริงจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่จะกระตุ้นการบริโภคดีแค่ไหนจะต้องติดตามต่อไป