xs
xsm
sm
md
lg

GBS เผยงบฯ Q3/59 ของ บจ.ที่ยังเติบโต จะเป็นปัจจัยช่วยพยุงตลาดฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


GBS มองตลาดหุ้นไทยกังวลบาทอ่อนกดดัน Fund Flow ไหลออก หวั่นต่างชาติพลิกขาย พร้อมมองว่า งบฯ Q3/59 ของ บจ.ที่ยังเติบโต จะช่วยพยุงตลาดฯ

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะได้ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. รวมถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีแนวโน้มออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดความต่อเนื่องในช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และภายในเดือนตุลาคม กระทรวงการคลัง เตรียมยื่นไฟลิ่งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตของไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)

ทั้งนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงมีความกังวลจากค่าเงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow ไหลออก นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิในเดือนตุลาคม ประกอบกับนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังกล่าวเตือนถึงอันตรายว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำสามารถนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง และยาวนาน

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ ทยอยแจ้งผลการดำเนินงานในช่วง Q3/2559 ภายใน 21 ต.ค. คาดกำไรของธนาคารส่วนใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสที่แล้ว จากการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง, วันที่ 20 ต.ค. (ช่วงเช้าตามเวลาไทย) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) รวมถึงกำหนดดีเบตคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 3 จับตาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน จะดึงคะแนนเสียงเพิ่มได้หรือไม่ จากผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ยังมีคะแนนนำที่ 48% ต่อ 37% และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุม ซึ่งมีประเด็นจับตาว่า จะขยายวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือน มี.ค.60 หรือไม่

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ถูกแรงกดดันจากแรงขายจากต่างชาติที่เป็นยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ราว 7.4 พันล้านบาท รวมถึงความกังวลว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงซื้อเก็งกำไรงบไตรมาส 3/2559 จะช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีอ่อนตัวลงแรง

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนโดยมีกรอบเคลื่อนตัวที่ 1,460-1,490 จุด ทั้งนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ หุ้นกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 3/2559 จะเติบโตขึ้น แนะนำ KCE CPALL SPALI ANAN BEAUTY GFPT FSMART TPCH WICE และ ACAP รวมถึงกลุ่มส่งออก (อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์) ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า และ BANPU ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 4 ปี ล่าสุด 90.9 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบเป็นลักษณะของการพักตัว หลังราคาปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า โดยราคายังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เฟดมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นสู่ 75% จากเดิมที่ 65% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.

ขณะที่ นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้ออกมาเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง และยาวนาน และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน สวนทางกับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวว่า เฟดอาจต้องผลักดันเศรษฐกิจด้วยการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ ส่งผลให้ความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาพักตัวออกด้านข้างหลังปรับลงแรง และส่งผลให้เส้น 5 วันแกว่งตัวเป็นเส้นนอนเป็นสัญญาณบวกต่อการพักฐานหลังราคาลงมาจบรูปแบบลง ROUNDING TOP การเริ่มวกกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น 5 วัน ขณะที่ค่าสัญญาณ RSI มีภาวะขายมาก และเริ่มปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวก เพิ่มแรงหนุนต่อราคาให้มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยมีแนวรับ 1,240 -1,235 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์



กำลังโหลดความคิดเห็น