บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงบวกคาดการณ์ Fed จะชะลอขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรโตต่ำกว่าคาด โดยให้กรอบดัชนี 1,470-1,520 จุด แนะซื้อสะสมหุ้น BANPU และหุ้นที่ทาง FTSE : Rebalance เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัว ส่วนการประชุม กนง.คาดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินตลาดหุ้นว่า ยังคงให้ความสำคัญกับการคาดการณ์ Fed ที่มีแนวโน้มว่าจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% รวมทั้งดัชนีภาคบริการในเดือน ส.ค. มีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปี และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์โดยอยู่ที่ระดับ 51.4 ลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือน ก.ค.
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันขยับขึ้น หลังมีข่าวว่า ซาอุฯ และรัสเซีย จับมือร่วมกันรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวน ทั้งนี้ การประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. และนักลงทุนต่างชาติยังคง Net Buy ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ประมาณ 3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องกังวลกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทยเดือนสิงหาคม 2559 ปรับลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากระดับ 49.4 มาอยู่ที่ระดับ 47.8 ซึ่งเป็นการปรับลดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเกือบทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันรัฐบาลอังกฤษจะกำหนดแผนการดำเนินการในสัปดาห์นี้ เรื่องการเตรียมการออกจากการเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 8 กันยายนนี้ ซึ่งตลาดคาดหวังว่าจะขยาย QE ที่จะหมดอายุในเดือน มี.ค.2560 และในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book และในวันที่ 14 ก.ย. มีประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งตลาดคาดว่า กนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และดัชนีภาคบริการที่ชะลอตัว แต่ทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงราว 0.6% อาจจะเป็นลบต่อกระแส Fund Flow ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคที่ทิ้งตัวลงแรงเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด
ดังนั้น ประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,470-1,520 จุด โดยแนะนำรอซื้อสะสมช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ได้แก่ หุ้น BANPU จากราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 69.9 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และยังให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน BPP ช่วง 18-25 หุ้น BANPU ต่อ 1 หุ้น BPP ขึ้น XB วันที่ 8 กันยายนนี้
นอกจากนี้ ทาง FTSE : Rebalance Large Cap เพิ่ม KBANK, SCC ส่วน Mid Cap เพิ่ม BEM และ Small Cap เพิ่ม GPSC, VIBHA, IMPACT แต่ถอด THRE โดยมีผล 16 กันยายนนี้
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค.
ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ส่งผลให้ตลาดลดการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในการประชุมนโยบายการเงินช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกผิดหวังต่อถ้อยแถลงของ นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุม BOJ ในวันที่ 20-21 ก.ย. ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อเยน เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคมองว่า มีการฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวกลักษณะ Tower Bottom ค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาแนวโน้มสร้างฐานแนวรับ Double Bottom และสร้างแรงหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวรับ 1,325-1,320 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์