บล.บัวหลวง เผยนักลงทุนซื้อขาย DW ไตรมาส 3 สูงสุดทุบสถิติ เหตุฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้น หนุนบรรยากาศลงทุนคึกคัก ชู DW บน “SET50-ADVANC-PTT-KBANK-TRUE” เทรดติดลมบน พร้อมแนะนักลงทุนเพิ่มความระมัดในการเทรด DW ช่วงตลาดผันผวนต่อเนื่องจากปลายไตรมาส 3
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ประจำไตรมาส 3/2559 พบว่า นักลงทุนลงทุนใน DW อย่างคึกคักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็น 5.5% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งตลาด ภายหลังสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น เตรียมอัดฉีดสภาพคล่อง และออกมาตรการรับมือกรณีที่สหราชอาณาจักร จะออกจากกลุ่มยูโร (Brexit) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ เพื่อเร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง หนุนดัชนีหุ้นไทยในไตรมาสนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 38.22 จุด หรือคิดเป็น 2.65%
ขณะที่ช่วงเวลาดังกล่าวนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนใน Call DW อ้างอิงหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT, ADVANC, KBANK, PTT, PTTEP, SCB, TRUE และหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK, ITD, STEC สำหรับหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ (45.0%), กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (11.1%), กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (11.0%) ขณะที่ DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 Index (45.6%), ADVANC (4.1%), PTT (3.2%), KBANK (3.1%), TRUE (2.6%)
ทั้งนี้ ในช่วงปลายไตรมาส 3/2559 จนถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนจากปัจจัยภายใน และต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนหลายท่านไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางตลาดได้อย่างแม่นยำ หลักทรัพย์บัวหลวง จึงขอแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน DW ทุกประเภท ทั้ง Call DW และ Put DW เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทด หากผิดทางอาจจะทำให้เกิดการขาดทุนได้มาก นักลงทุนจึงควรกำหนดจุดขายทำกำไร และจุดตัดขาดทุนทุกครั้งก่อนการลงทุน พร้อมปฏิบัติตามแผนการลงทุนอย่างเคร่งครัด สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถใช้บริการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ หรือ Bualuang iAlgo เพื่อลดความเสี่ยงจากการส่งคำสั่งซื้อขายไม่ทันในช่วงตลาดผันผวน เพราะราคา DW จะเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็ว หากนักลงทุนตั้งซื้อ หรือขาย DW ไว้ล่วงหน้าผ่านโปรแกรมดังกล่าว ระบบจะส่งคำสั่งให้อัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ช่วยให้ไม่พลาดทุกจังหวะที่สำคัญในการลงทุน
“นักลงทุนที่ไม่มั่นใจในภาวะตลาด ควรเทรด DW ในปริมาณที่น้อย เพื่อรอดูจังหวะที่ตลาดมีความชัดเจน ก่อนจะเพิ่มปริมาณการลงทุนใน DW ให้มากขึ้น ส่วนนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนในหุ้น และไม่ต้องการขายหุ้นออกไป อาจซื้อ Put DW บนดัชนี SET50 เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะถึงแม้ว่าตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ทำให้พอร์ตขาดทุน แต่ถ้านักลงทุนถือ Put DW ไว้จะได้กำไรจาก Put DW มาชดเชยการขาดทุนที่เกิดจากพอร์ตลงทุนหลัก เป็นการช่วยลดผลกระทบเชิงลบในช่วงตลาดขาลง” นายบรรณรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ดี หลักทรัพย์บัวหลวง ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย โดยล่าสุด บริษัทได้ทำการออก และเสนอขาย DW จำนวน 30 รุ่นอ้างอิงหุ้น BANPU, BDMS, BH BTS, CHG, IVL, PTTGC, QH, SET50 Index, SCC, STPI, TASCO, TCAP และ TMB ซึ่งทั้งหมดได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน โดยมีปริมาณการซื้อขายรวมสูงถึง 135 ล้านบาทในวันซื้อขายวันแรก นักลงทุนที่สนใจ DW ชุดดังกล่าวสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.blswarrant.com
อนึ่ง ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา หลักทรัพย์บัวหลวง ยังเป็นผู้ออกที่มีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 17.09% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาด และมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกสูงถึง 59.26% นอกจากนี้ บริษัทยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการซื้อขายการซื้อขาย DW ในไตรมาส 3/2559 หรือยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุนในไตรมาส 3/2559