xs
xsm
sm
md
lg

แนะติดตามค่าเงินบาท และค่า Credit Default Swap (CDS Premium) ในระหว่างวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


KTBST มองตลาดหุ้นไทยยังประเมินทิศทางยาก แนะชะลอลงทุน ส่วนปัจจัยที่ควรติดตามในระหว่างวัน เป็นเรื่องค่าเงินบาท และค่า Credit Default Swap (CDS Premium) ในระหว่างวัน เพราะจะบ่งชี้ถึงระดับความกังวลของนักลงทุนต่างประเทศ

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (13 ต.ค.) ทิศทางตลาดประเมินค่อนข้างยากว่าจะลง หรือรีบาวนด์ เพราะหลายปัจจัยทั้งในแต่ต่างประเทศยังคลุมเครือ ดังนั้น กลยุทธ์วันนี้แนะให้ชะลอการลงทุน โดยหุ้นที่คาดว่าน่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น ซึ่งควรรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา ได้แก่ KCE, BANPU, BJC พร้อมทั้งมองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,380-1,420 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกเล็กน้อยในคืนที่ผ่านมา ขณะที่ยุโรปก็ปรับตัวลง เป็นสัญญาณว่า นักลงทุนกำลังรอปัจจัยใหม่ และก็เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 กันแล้ว ขณะที่รายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ย และจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ทำให้ Fed Fund Rate Implied Probabilities เดือน พ.ย. 17.1% ของเดือน ธ.ค. ขยับขึ้นเป็น 67.6%

โดย KTBST คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 ธ.ค.59 โดยเราประเมินในเรื่องนี้ว่า นักลงทุนบางส่วนจะทยอยปรับพอร์ตสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ รับกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารยุโรป ECB ในสัปดาห์หน้า วันที่ 20 ต.ค. ที่คาดว่า ECB อาจมีข้อความบางอย่างเกี่ยวกับนโยบาย QE

ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง การประชุมวานนี้ (12 ต.ค.) ผู้ผลิตน้ำมันเพียงแค่ยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือ แต่ไม่ระบุปริมาณที่จะลดการผลิต โดยจะหารือกันอีกครั้งช่วง 28-29 ต.ค. นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ทั้งสองปัจจัยเป็นลบต่อราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มน้ำมัน (ผู้ผลิตน้ำมัน+โรงกลั่นน้ำมัน) ในวันนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้มีเพียงปัจจัยเดียวที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นโดยรวม และออกไปในทางลบต่อตลาด ซึ่งภาพตลาดหุ้นวันนี้ เรายังมองว่า แม้อาจมีการรีบาวนด์เกิดขึ้น แต่ทิศทางยังคงดูเป็นลบ ปัจจัยที่ควรติดตามในระหว่างวัน เป็นเรื่องค่าเงินบาท และค่า Credit Default Swap (CDS Premium) ในระหว่างวัน เพราะจะบ่งชี้ถึงระดับความกังวลของนักลงทุนต่างประเทศ แต่ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ก็จะกลับมาเป็นบวกต่อตลาด นอกจากนี้ จีนจะมีการรายงานตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะสูงขึ้น +2.5% YoY (สกุลหยวน) จากเดือนก่อน +5.9%


กำลังโหลดความคิดเห็น