แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ ที่ปรึกษาการเงิน “ซีลิค คอร์พ” เผย ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง SELIC เสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ระดมทุนเพื่อใช้ขยายงาน
นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ SELIC เมื่อวันที่17 กันยายน 2559 เรียบร้อยแล้ว
“ธุรกิจกาวถือว่ามีส่วนสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องใช้งานในแทบทุกอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการใช้กาวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง SELIC เองมีทีมวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย และมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นความแตกต่างที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม ทำให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี จากปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นจุดแข็งของบริษัทที่จะสามารถมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน และทำให้เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจอย่างมาก” นายเสกสรรค์ กล่าว
โดย SELIC จะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งภายหลังจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 140 ล้านบาท
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SELIC กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกาวอุตสาหรรม (Adhesive, Specialty and High Performance Adhesive) ทั้งใน และต่างประเทศ โดยสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม แยกตามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ และลักษณะการใช้งาน ได้แก่ 1) Solvent Based Adhesive 2) Water Based Adhesive 3) Hot Melt Adhesive และ 4) ผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไปอื่นๆ โดยบริษัทมุ่งมั่นจะรักษาความเป็นผู้นำด้านกาวอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทในด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับความต้องการ และการใช้งานของกลุ่มลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการวิจัยและพัฒนา (R&D) รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนในการต่อเติมอาคารและปรับปรุงระบบการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการการเติบโตของบริษัทในอนาคต
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น และมั่นใจในด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ของบริษัทฯ รวมไปถึงการมีทีมบุคลากรที่มีคุณภาพ และเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของตลาด นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะช่วยลดต้นทุนในการผลิต และสามารถตอบสนองต้องการความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายเอก กล่าว
นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ SELIC เมื่อวันที่17 กันยายน 2559 เรียบร้อยแล้ว
“ธุรกิจกาวถือว่ามีส่วนสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องใช้งานในแทบทุกอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการใช้กาวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง SELIC เองมีทีมวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย และมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นความแตกต่างที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม ทำให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี จากปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นจุดแข็งของบริษัทที่จะสามารถมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน และทำให้เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจอย่างมาก” นายเสกสรรค์ กล่าว
โดย SELIC จะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งภายหลังจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 140 ล้านบาท
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SELIC กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกาวอุตสาหรรม (Adhesive, Specialty and High Performance Adhesive) ทั้งใน และต่างประเทศ โดยสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม แยกตามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ และลักษณะการใช้งาน ได้แก่ 1) Solvent Based Adhesive 2) Water Based Adhesive 3) Hot Melt Adhesive และ 4) ผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไปอื่นๆ โดยบริษัทมุ่งมั่นจะรักษาความเป็นผู้นำด้านกาวอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทในด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับความต้องการ และการใช้งานของกลุ่มลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการวิจัยและพัฒนา (R&D) รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนในการต่อเติมอาคารและปรับปรุงระบบการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการการเติบโตของบริษัทในอนาคต
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น และมั่นใจในด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ของบริษัทฯ รวมไปถึงการมีทีมบุคลากรที่มีคุณภาพ และเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของตลาด นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะช่วยลดต้นทุนในการผลิต และสามารถตอบสนองต้องการความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายเอก กล่าว