xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ ศก.ไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รบ.เร่งลุยโครงสร้างพื้นฐานผ่านเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หัวหน้าทีม ศก.แจงผลงาน 2 ปี เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้าง ศก. สร้างความเข้มแข็ง ศก.ฐานราก เชื่อมต่อนานาประเทศ ส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ย้ำชัด ศก.ไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เพราะส่งออกยังมีปัญหาจาก ศก.โลกชะลอตัว เอกชนไทยจึงยังไม่กล้าลงทุนมาก ดังนั้น รบ.จึงต้องปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานผ่านเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้ ศก.ฟื้นตัวได้ในระยะยาว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจในช่วง 2 ปี โดยระบุว่า หลังจากรัฐบาลเริ่มเข้ามาบริหารช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะเศษฐกิจโลกถดถอย ความมั่นใจนักลงทุน ประชาชนลดลง ความสามารถในการแข่งขันลดต่ำลง เมื่อออกมาตรการต่างๆ มาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากร้อยละ 0.8 ขยับเพิ่มเป็นร้อยละ 2.8 ในสิ้นปี 2558 และขยับเพิ่มเป็นร้อยละ 3.2 ในไตรมาส 1 ของปี 2559 และเพิ่มร้อยละ 3.5 ช่วงไตรมาส 2 ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่า จีดีพีของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 3.2 ทีมเศรษฐกิจจะพยายามทำให้ถึงเป้าหมาย เมื่อเศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

“เชื่อมั่นว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เพราะส่งออกยังมีปัญหาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เอกชนไทยจึงยังไม่กล้าลงทุนมาก รัฐบาลจึงต้องปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานผ่านเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในระยะยาว และช่วยเหลือภาระหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกร เพิ่มรายได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เอกชน เชื่อว่าทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย”

ทั้งนี้ รัฐบาลจึงต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย 1.การสร้างเศรษฐกิจไทยใหม่ (New Economic) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก แทนการพึ่งพาการส่งออกมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย เพื่อสร้างตลาดให้กับสินค้าชุมชน สร้างตลาดท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในชุมชน และกระจายออกไปทั้งประเทศ 2.การเชื่อมต่อกับนานาประเทศ (Thailand Connect) การเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกับต่างประเทศ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ผ่านเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สนามบิน พัฒนาแหล่งน้ำ ในปีนี้จึงต้องเสนออนุมัติโครงการลงทุนต่างๆ ให้เสร็จ เพื่อเริ่มก่อสร้างปี 2560 โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ-หนองคาย ที่ได้ร่วมมือกับจีนในการก่อสร้างนั้น คืบหน้าไปมากแล้ว ขณะที่ญี่ปุ่น สนใจร่วมลงทุนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน

นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก การเดินหน้าพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ สร้างมอเตอร์เวย์ภาคตะวันออก เพื่อสร้างฐานเศรษฐกิจรองรับการค้า การลงทุน ในอีก 30 ปีข้างหน้า เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาร่างกฎหมายเร็วๆ นี้ เพื่อพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ให้มีมาตรฐานเหมือนกับร็อตเตอร์ดัม ของเนเธอแลนด์ หวังเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้ากระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน 3.Thailand 4.0 เพื่อต้องการส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันสร้างอุตสาหกรรมใหม่ผ่านการวิจัยและพัฒนา และการสร้างเครือข่ายร่วมกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ เพื่อมุ่งพัฒนา 5 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 1.กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ 2.กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ 3.กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และเครื่องกลใช้อิเล็กทรอนิกส์ควบคุม 4.กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีสมองกล และ 5.กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง 4.การฟื้นความเชื่อมั่นของไทยในเวทีโลก เพื่อประกาศให้รับรู้ว่า ไทยพร้อมออกไปแข่งขันกับหลายประเทศทั่วโลก ผ่านความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ตั้งเป้าหมายอีก 2 ปีข้างหน้า และ 5.การเน้นสร้างความโปร่งใส (Thailand Governance) ส่งเสริมให้ส่วนราชการลงนามคุณธรรม เพื่อเปิดให้เอกชน ประชาชน เข้ามาติดตามโครงการลงทุนของรัฐ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงต้องร่วมมือกับทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางลดปัญหาหนี้สินรายย่อยผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ เตรียมเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนผ่านการปฏิรูปเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รัฐบาลได้วางแผนการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า หวังให้มีเงินสะพัดอย่างน้อย 500,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศให้เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5 เพราะปีหน้าจะเริ่มลงทุนโครงการด้านต่างๆ มุ่งเน้นสร้างรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า พัฒนาระบบขนส่ง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้ได้ 7 ล้านคนต่อวัน เดินหน้าจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อต้องการวางพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศให้พึ่งพาได้ในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น