บล. KTBST มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (12-16 ก.ย.) ยังผันผวนแรงขายยังคงมีต่อเนื่อง จากปัจจัยหลักคือ ความไม่แน่นอนที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย แนะลดพอร์ตรอเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ แนวรับที่ 1,428-1,400 จุด แนวต้านที่ 1,477-1,500 จุด
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (12-16 ก.ย.) ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงขาย และความผันผวนเช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีตัวแปรสำคัญของตลาด คือ เรื่องความไม่แน่ใจในผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีผลออกมาในทิศทางใด หลังประธาน Fed สาขาบอสตัน ระบุว่า ภาวะดอกเบี้ยต่ำอาจเป็นผลให้เศรษฐกิจเกิดความร้อนแรงผิดปกติได้ ซึ่งความน่าจะเป็นของการที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ขยับจาก 28.0% ขึ้นเป็น 30% เป็นผลกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์ (9 ก.ย.) และคาดจะมีผลมาจนถึงสัปดาห์นี้ตลอดทั้งสัปดาห์ กล่าวคือ เราคาดว่า ข่าว หรือการคาดการณ์เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเข้ามาเป็นระยะๆ ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนจนกว่าการประชุมจะผ่านพ้นไป อย่างไรก็ตาม ทาง บล. KTBST คาดว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้น จากการใช้แท่นผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 7 แท่น และซาอุดิอาระเบีย มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนวาระประชุมผู้ผลิตน้ำมันจาก Oil Freeze เป็น Ceiling Plan ถ้ามีการตัดสินใจใช้เพดานการผลิตขึ้นมาจริงๆ จะช่วยราคาน้ำมันเพียงแค่ให้วิ่งในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐ คือ ไม่สูงกว่านี้ เพราะภาวะ oversupply จะลดลงช้ากว่าที่คิด ผนวกกับดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
ส่วนปัจจัยอื่นๆ จะเป็นเรื่องแรงขายที่เกิดจากการลดความเสี่ยงของนักลงทุน (ยิ่งลงยิ่งขาย) และสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขสำคัญๆ ในต่างประเทศ อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ 3 ตัว คือ ยอดค้าปลีก ตัวเลขเคลมว่างงาน และตัวเลขดัชนีแสดงแนวโน้มของอุตสาหกรรมการผลิต (Empire Manufacturing) ซึ่งจะเป็นตัวชี้นำโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และการประชุม กนง.ของไทย ซึ่ง บล.KTBST คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50%
“กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ ไม่ว่าตลาดจะลงด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ที่เห็นกัน คือ มีแรงขาย และผันผวนหนักมาก และยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน บล. KTBST ยังแนะนำให้ลดพอร์ต และรอซื้อเมื่อดัชนีฯ เริ่มยืนได้ หรือปรับตัวขึ้น 2 วันติดต่อกัน ให้เข้าลงทุนในแบบเล่นสั้นๆ เท่านั้น และเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และราคาปรับตัวลงมามากๆ ไว้ก่อน มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้จะมีแนวรับที่ 1,428-1,400 จุด และแนวต้านที่ 1,477-1,500 จุด หุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ คือ หุ้นที่คาดจ่ายเงินปันผลดีสม่ำเสมอ ได้แก่ DIF, JASIF และหุ้นเล็กที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว TCAP, KCE, WICE”