xs
xsm
sm
md
lg

แนะจับตา 3 ปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้น กบข. มองตลาดช่วงนี้ผันผวนน้อยกว่าที่คาดเอาไว้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เลขาธิการ กบข.ยอมรับ ต้องปรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้น ส่วนความผันผวนของตลาดหุ้นช่วงนี้ ถือว่าน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ พร้อมแนะจับตา 3 ปัจจัยสำคัญที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ แนวโน้มการลงทุนระยะยาวของ กบข. ในสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า แม้ว่าขณะนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไปมาก ซึ่งการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในช่วง 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา น่าจะเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นไทยครั้งที่ 2 โดยภาพรวมมีความผันผวนน้อยกว่าที่เคยประเมินเอาไว้ เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ยังคงสูงกว่าในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ถึงเกือบ 200 จุด อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะสั้น ผู้จัดการ พอร์ตการลงทุนของ กองทุน กบข. จำเป็นต้องปรับพอร์ตการลงทุนบ้าง และไม่จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์พอร์ตการลงทุนเป็นพิเศษ

ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนของกองทุน กบข. ลงทุนในพันธบัตร และหุ้นกู้ชั้นดี ประมาณร้อยละ 64-65 โดยตามกฎหมายกำหนดให้ต้องลงทุนร้อยละ 60 ขึ้นไป ที่เหลืออีกร้อยละ 20 ลงทุนในหุ้น เงินลงทุนในหุ้นไทยคิดเป็น 1 ใน 3 ที่เหลือเป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ในหลายทวีปในโลก ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนทางเลือก ที่ไม่ใช่ตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร เช่น อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วย เป็นต้น

ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุน กบข.ในปีนี้ ตั้งเป้าให้ได้รัอยละ 2.5 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อรายปี และดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา การลงทุนได้ผลตอบแทนมากกว่าร้อยละ 3-3.5 ทั้งนี้ หากไม่มีอะไรเข้ามากระทบรุนแรงมากกว่านี้ ก็เชื่อว่าผลตอบแทนของ กบข.จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ดังนั้น กบข.จึงเชื่อว่า จากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะอยู่ในระดับที่ดี โดยดัชนีราคาหุ้นปีนี้จะมีความผันผวน โดยมีปัจจัยต่างๆ ดังนี้ กระแสการไหลของเงินทุนต่างชาติ (fund flow) โดยปีนี้ต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้วประมาณ 110,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะต้องจับตาแนวโน้มการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในช่วงต่อไปไปจนถึงสิ้นปี เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อราคาหุ้นไทย ปัจจัยที่ 2 ที่ต้องจับตามอง คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ว่าจะมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้หรือไม่ หากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉลองออกไปจะส่งผลดี

ปัจจัยที่ 3 ที่ต้องจับตา คือ การบริหารเศรษฐกิจ และการจัดการเตรียมการเลือกตั้งในปีหน้าจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องจับตามอง ได้แก่ เศรษฐกิจจีน และเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา


กำลังโหลดความคิดเห็น