“เสนาฯ” เดินหน้าลงทุนเปิดโครงการครึ่งปีหลังตามแผน 5 โครงการจากทั้งปี 7 โครงการมูลค่ารวม 4,670 ล้านบาท โชว์ศักยภาพผลการดำเนินงานทั้งปีรายได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดสิ้นปีแบ็กล็อก 2,800 ล้านบาท รับรู้รายได้ปีนี้ต่อเนื่องปี 60 พร้อมเปิดแผนปีหน้ารุกอสังหาฯ ตลาดต่างจังหวัด พุ่งเป้าชลบุรี และศรีราชา มีสำนักงานขายบริการ และดูแลลูกค้า
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจครบเครื่องอสังหาริมทรัพย์ และรายแรกของไทยที่ทำโครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า เราเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้มีความชัดเจน และเป็นรูปธรรม ในการเกิดโครงการระบบสาธารณูปโภค เช่น ถนน และรถไฟฟ้า ในขณะที่ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจเปิด ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ของประเทศต่างๆ
โดยภาพปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่ามีการแข่งขันสูง ตลาดคอนโดมิเนียมมีสินค้า (ซัปพลาย) อยู่ในปริมาณที่มาก รวมถึงสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ส่งผลให้อัตราการปฎิเสธสินเชื่อในระบบมีสัดส่วนที่มากขึ้น ซึ่งทางเสนาฯ ต้องบริหาร และติดตามเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนลงทุนเปิดตามแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,670 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 1,980 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,690 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดอีก 5 โครงการอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ได้ทำการเปิด The Kith Plus สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท ผลตอบรับดีมาก มียอดจองกว่า 70% ในช่วง Presale และบริษัทจะทยอยเปิดโครงการที่เหลืออีก 4 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย The Niche Mono บางนา เฟส 3 มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท The Kith Lite บางกะดี เฟส 2 มูลค่าโครงการ 310 ล้านบาท และ The Niche Mono สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิด 2 โครงการไปแล้ว ได้แก่ โครงการ SENA Ville บรมราชชนนี-สาย 5 มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท และโครงการ SENA Park Ville รามอินทรา-วงแหวน เฟส 1 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ารายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวม 3,500 ล้านบาท มียอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมียอดโอนเข้ามาแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นยอดที่รอรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังประมาณ 1,000 ล้านบาท และแผนเปิดโครงการใหม่จะมีผลต่อยอดขายรอโอนในปีหน้า”
ผศ.ดร.เกษรา ยังกล่าวถึงเป้าหมายสำคัญในการรุกตลาดอสังหาฯ ในปี 2560 ว่า เสนาฯ วางเป้าหมายที่จะเปิดโครงการใหม่มากกว่าปี 59 โดยมีไฮไลต์ คือ การขยับการลงทุนไปตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด เน้นโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลได้ลงทุนไว้แล้ว ซึ่งในภาคตะวันออก มีความพร้อมจากการลงทุนของภาครัฐ ดังนั้น ทางเสนาฯ จะเข้าไปลงทุน และเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดชลบุรี และศรีราชา โดยที่ชลบุรี เป็นโครงการใหญ่ ที่ดินได้จัดซื้อมานานแล้วประมาณ 100 ไร่ คาดพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ และเป็นจังหวัดที่จะมีสำนักงานขาย
“เราจะออกนอกกรุงเทพฯ เพราะตลาดมีการแข่งขันสูง เรามองว่า ที่จังหวัดชลบุรี ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก แม้จะมีการผู้ประกอบการรายอื่นไปลงทุนไว้แล้ว แต่ชลบุรี ตลาดใหญ่พอ และมีกำลังซื้อ ส่วนที่ศรีราชา ที่ดินเพิ่งจัดซื้อเข้ามา ประมาณ 10 ไร่ พัฒนาโครงการแนวราบ น่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1 ปีหน้า ทั้งนี้ ในการพัฒนาโครงการทุกแห่ง เสนาฯ จะให้ความใส่ใจอย่างมากในผลิตภัณฑ์ และเราให้นิยามของผู้บริโภคในยุคนี้ 4.0 ดังนั้น โปรดักต์ของเราต้องดีจริง ต้องเพิ่มอินโนเวชั่นในบ้านทุกหลังของเสนาฯ”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความใส่ใจ ดูแลลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “หัวคิด และหัวใจ” พร้อมบริการดูแลหลังการขาย 360 องศา เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ทั้ง 1.มั่นใจ ตั้งแต่การออกแบบ เพราะเรามีทีมวิจัย และพัฒนาสินค้า เลือกทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต พร้อมทั้งออกแบบให้ทุกฟังก์ชั่น คำนึงถึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัย 2.สบายใจ ทุกการซ่อมแซม เพราะเรามี SENA WE CARE ที่คอยให้คำปรึกษา ดูแล ซ่อมแซม และบำรุงรักษาบ้านอยู่ ตลอดให้อุ่นใจ 3.อุ่นใจ เพราะมีการบริหารดูแลจาก Victory Asset ซึ่งทำให้โครงการมีสภาพที่ดีอยู่เสมอ และ 4.ภูมิใจกับมูลค่าที่เพิ่ม หากลูกบ้านคิดจะขยับขยายไปสู่บ้านที่ใหญ่ขึ้น บ้านหลังเดิมที่มีการดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา ผนวกกับทำเลที่มีศักยภาพ จะทำให้ทรัพย์สินในวันนี้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และยังมี Living Agent ที่คอยดูแลหาผู้มารับมอบบ้านหลังนี้ต่อจากคุณด้วย.
