SENA เข้าสู่ปีทอง! ครึ่งปีกำไรทะลัก 555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์ยอดโอนโครงการ “เดอะนิช โมโน รัชวิภา” ผู้บริหารหญิงแกร่งรักษ์โลก “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” มั่นใจครึ่งปีหลังโตไม่ยั้ง ยอดขายทะลุเป้า 4.5 พันล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ตามแผน ผู้ถือหุ้นยิ้มแก้มปริ! บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างการในอัตรา 0.19463 บาท/หุ้น
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจครบเครื่องอสังหาริมทรัพย์ และรายแรกของไทยที่ทำโครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,177 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 247% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 477 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,041% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2559 มีรายได้รวม 2,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,539 ล้านบาท หรือ 157% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 982 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 444 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 400% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ในอัตรา 46.36% ของงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.19463 บาท/หุ้นกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2559 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ในที่ 26 สิงหาคม 2559 กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2559 ในวันที่ 9 กันยายน 2559
“รายได้ และกำไรในครึ่งปีแรกของปีนี้ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้รับอานิสงส์จากโครงการ เดอะนิช โมโน รัชวิภา และมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงในช่วงต้นไตรมาส 2/59” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ารายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมียอดโอนเข้ามาแล้วกว่า 2,500 ล้านบาท และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นยอดที่รอรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังประมาณ 1,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังเพื่อสะสมยอดขายรอโอนสำหรับปี 2560
ทั้งนี้ โครงการใหม่ในปี 2559 มีจำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,670 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 1,980 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,690 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้เปิดแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการ SENA Ville บรมราชชนนี-สาย 5 มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท และโครงการ SENA Park Ville รามอินทรา-วงแหวน เฟส 1 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท พร้อมเปิดอีก 5 โครงการอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ได้เปิด The Kith Plus สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก มียอดจองเกือบ 70% ในช่วง Presale และบริษัทจะทยอยเปิดโครงการที่เหลืออีก 4 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย The Niche Mono บางนา เฟส 3 มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท The Kith Lite บางกะดี เฟส 2 มูลค่าโครงการ 310 ล้านบาท และ The Niche Mono สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความใส่ใจ ดูแลลูกค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “ หัวคิด และหัวใจ” พร้อมบริการดูแลหลังการขาย 360 องศา เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ทั้ง 1.มั่นใจ ตั้งแต่การออกแบบ เพราะเรามีทีมวิจัย และพัฒนาสินค้า เลือกทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต พร้อมทั้งออกแบบให้ทุกฟังก์ชัน คำนึงถึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัย 2.สบายใจ ทุกการซ่อมแซม เพราะเรามี SENA WE CARE ที่คอยให้คำปรึกษา ดูแล ซ่อมแซม และบำรุงรักษาบ้านอยู่ตลอดให้อุ่นใจ 3.อุ่นใจ เพราะมีการบริหารดูแลจาก Victory Asset ซึ่งทำให้โครงการมีสภาพที่ดีอยู่เสมอ และ 4.ภูมิใจกับมูลค่าที่เพิ่ม หากลูกบ้านคิดจะขยับขยายไปสู่บ้านที่ใหญ่ขึ้น บ้านหลังเดิมที่มีการดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา ผนวกกับทำเลที่มีศักยภาพจะทำให้ทรัพย์สินในวันนี้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และยังมี Living Agent ที่คอยดูแลหาผู้มารับมอบบ้านหลังนี้ต่อจากคุณด้วย.