xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะสวนดีเอสไอ ยันปั๊มหัวใจไม่ทำให้ตับแตก-เลือดออกช่องท้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กแจงการเสียชีวิตของอดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา ยันปั๊มหัวใจไม่เป็นสาเหตุให้ตับแตก-ตกเลือดในช่องท้องตามที่ดีเอสไอแถลง

วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ได้โปรดแชร์ถึงนักข่าวจำนวนมากที่สอบถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากเช้าวันนี้ (1 ก.ย. 59 ก่อน 12.00 น.) ผมจะต้องยื่นหนังสือคัดค้านการพิจารณาบุคคลที่มีพฤติกรรมสนับสนุนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพื่อโปรดเกล้าฯ เป็นผู้พิพากษา โดยจะต้องยื่นหนังสือคัดค้านเข้าสู่คณะกรรมการตุลาการผ่านเลขาฯ ศาลยุติธรรม ผมจึงขอเรียนชี้แจงนักข่าวจำนวนมากที่สอบถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหากรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นลายลักษณ์อักษรดังความต่อไปนี้

เวลา 01.10 น.ของวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยประมาณ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ จัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วน

เวลา 01.15 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพบว่านายธวัชชัย อนุกูล อยู่ในภาวะวิกฤตแล้วโดยต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION : CPR) ในทันที จากนั้นได้รีบนำตัวไปรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ

เวลา 01.33 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉินนำตัวนายธวัชชัย อนุกูล มาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว พยายามช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION : CPR) หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “ปั๊มหัวใจ” โดยต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ณ ห้องฉุกเฉิน คลื่นไฟฟ้าหัวใจของนายธวัชชัย อนุกูล หยุดหลายครั้ง แต่ก็ยังพอกระตุ้นให้หัวใจกลับฟื้นคืนได้ชั่วคราวแต่อาการของนายธวัชชัย อนุกูล ก็ไม่ได้ฟื้นกลับคืนสภาพที่พ้นภาวะวิกฤต

เวลา 02.40 น. ได้ย้ายนายธวัชชัย อนุกูล จากห้องฉุกเฉินไปยังหน่วยอภิบาลผู้วิกฤต (CRITICAL CARE UNIT) ซึ่งอาการของนายธวัชชัย อนุกูล ยังคงเลวร้ายหรือวิกฤตลงอย่างต่อเนื่องจำต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION : CPR) ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้จนเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.45 น.

เวลา 08.15 น.เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้มาเคลื่อนย้ายศพออกไปจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งต่อมาผมได้ทราบจากนักข่าวว่าถูกนำไปชัณสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชศาสตร์

เวลา 17.45 น.ของวันที่ 31 สิงหาคม จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 1 กันยายน 2559 ผมถูกนักข่าวโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมากล้วนแล้วแต่มีประเด็นว่า “การปั๊มหัวใจ” นายธวัชชัย อนุกูล เป็นเหตุให้นายธวัชชัย อนุกูล ขาดออกซิเจน และตับแตก ตกเลือดในช่องท้องจนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้หรือไม่

ผมขอตอบนักข่าวและสาธารณชนว่า 1. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ จัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วนโดยชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ได้รับทราบข้อมูลว่ามีการผูกคอตาย

2. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION : CPR) ที่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพซึ่งมีการให้ออกซิเจน และช่วยการหายใจ การปั๊มหัวใจ ฯลฯ เพื่อการฟื้นคืนชีพ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่การช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION : CPR) จะทำให้นายธวัชชัย อนุกูล ขาดออกซิเจนมีแต่ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดออกซิเจนเสียด้วยซ้ำ

3. การปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) นั้น มีเทคนิคและวิธีการปฏิบัติบริเวณตำแหน่งของช่องทรวงอกเพื่อมีผลต่อหัวใจและปอด ส่วนตับเป็นอวัยวะที่อยู่ในช่องท้องคนละช่อง คนละตำแหน่งกันกับการการปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพ ทั้งนี้ช่องทรวงอกและช่องท้องนั้นถูกแบ่งกั้นจากกันด้วยกะบังลม ดังนั้น การปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพจึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตับแตกและตกเลือดในช่องท้องได้ ... ผมขอเน้นย้ำว่าการช่วยฟื้นคืนชีพเป็นการปฏิบัติที่หัวใจและปอด ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับตับครับ...นายธวัชชัย อนุกูล ตับแตกจากสาเหตุใด รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ทราบ นักข่าวต้องสอบถามจากนิติเวชแพทย์ผู้ชันสูตรโดยตรงครับ

4. ผมขอประทานโทษนักข่าวจำนวนมากจริงๆ ที่ต้องแถลงกรณีดังกล่าวผ่านทางเพจส่วนตัว เพราะผมติดภารกิจยื่นหนังสือคัดค้านการพิจารณาบุคคลที่มีพฤติกรรมสนับสนุนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพื่อโปรดเกล้าฯ เป็นผู้พิพากษา โดยผมจะต้องยื่นหนังสือคัดค้านเข้าสู่คณะกรรมการตุลาการผ่านเลขาฯ ศาลยุติธรรมภายในก่อนเที่ยงวันนี้ (1 ก.ย. 59) หากยังไม่ชัดเจนหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมค่อยติดต่อผมที่ โทร. 08-1815-0966 เวลาบ่ายๆ หรือเวลาเย็นๆนะครับ ขอประทานอภัยที่ไม่สะดวกในการสัมภาษณ์หรือจัดแถลงข่าวไว้ ณ ที่นี้ครับ แต่หากจำเป็นแล้วผมจะจัดตอบข้อซักถามในโอกาสต่อไปให้ครับ”
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น