xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ชี้ปมอดีตที่ดินพังงาตับแตกดับระหว่างคุมขัง ต้องให้หน่วยงานข้างนอกพิสูจน์ให้สังคมหายสงสัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รมว.ยุติธรรมเผยการเสียชีวิตของอดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ต้องให้หน่วยงานภายนอก เช่น ตำรวจ หรือกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม ชี้ดีเอสไอตั้งกรรมการสอบเองไม่ทำให้สังคมลดความสงสัย เป็นแค่ระเบียบราชการที่ต้องทำ

สืบเนื่องจากกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงาว่าการปั๊มหัวใจไม่เป็นสาเหตุทำให้เลือดออกในช่องท้อง หรือตับแตกได้ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แถลงวานนี้

วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 12.00 น. กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า แพทย์เพียงชี้แจงว่าสิ่งที่ได้กระทำการช่วยเหลือไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้ตับแตก เลือดออกในช่องท้องได้ แต่ก็บอกว่าสามารถเกิดได้เช่นกันหากทำผิดวิธี ซึ่งการปั๊มหัวใจนายธวัชชัยทำ 2 แห่ง ทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุ และ รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยแพทย์มั่นใจสิ่งที่ทำให้นายธวัชชัยเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากแพทย์ ตนอยากให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มาผ่าชันสูตรให้ชัดเจนต้องดูรายละเอียดว่าเกิดจากอะไรกันแน่ หากเกิดความเคลือบแคลงต้องชี้แจงต่อสังคมได้ ส่วนดีเอสไอตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเองนั้นก็ไม่ทำให้สังคมลดความสงสัยได้ แต่ก็เป็นระเบียบของราชการที่ต้องทำเช่นกัน

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า กรณีมีสื่อบางสำนักบอกว่าใช้เชือกรัดคอซึ่งถาม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่าเป็นถุงเท้า และอยากให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าวเพราะมีผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งต้องประสานชี้แจงญาติผู้เสียชีวิตเพื่อให้เกิดความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยเพราะไม่สามารถเฝ้าผู้ต้องขังได้ทุกคนเช่นเดียวกับในเรือนจำซึ่งไม่สามารถดูได้ทั่วถึงอาจทำให้มีช่องว่างเกิดขึ้นในการทำร้ายตัวเอง

“ส่วนที่ทาง ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ แจ้งมาว่าตอนแรกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบอกเป็นลมหมดสติไม่ได้บอกว่าผูกคอเสียชีวิตนั้น ผมไม่ทราบและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ต้องถามอธิบดีดีเอสไอ นอกจากนี้ ในเรื่องกล้องวงจรปิดไม่มีในห้องขัง มีบริเวณหน้าห้องขังเท่านั้นเพราะจะไปละเมิดสิทธิผู้อื่น แต่หากมีการทำร้ายร่างกายกันจริงคิดว่าไม่มีเฉพาะในห้องขังและสามารถทำในที่อื่นๆ ก็ได้” รมว.ยุติธรรมกล่าว

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกแต่ผู้ต้องหาหนีหมายจับเป็นเวลาหลายปีและไม่มีความจำเป็นต้องทรมานให้รับสารภาพเพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว ส่วนเรื่องผลประโยชน์ไม่ทราบ อีกทั้งตนได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหารายนี้ก่อนเสียชีวิตก็มีหลักฐานชัดเจน นอกจากนี้ พบว่ายังมีโฉนดที่ดินกว่า 1,000 แปลงใน จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท จึงได้สั่งให้รื้อคดีให้หมดเพราะกฎหมายสามารถทำได้และเตรียมส่งให้ ปปง.ตรวจสอบเรื่องการยึดทรัพย์ทั้งหมด หากพบใครเกี่ยวข้องในการกระทำผิดจะดำเนินการทันที
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น