MGR Online - ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะพร้อมทีมแพทย์แจงสาเหตุเสียชีวิตผู้ต้องหาทุจริตการออกโฉนดที่ดิน จ.ภูเก็ต-พังงา ระบุตอนส่งตัวมา รพ. ดีเอสไอไม่ได้แจ้งว่าผูกคอตาย ยืนยันปั๊มหัวใจไม่ทำให้ตับแตก อย่างมากซี่โครงหักแต่ไม่ถึงตาย ด้านญาติเลื่อนเผาศพไม่มีกำหนด
วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 15.00 น. ห้องประชุมชั้น 8 รพ.มงกุฎวัฒนะ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาล ร่วมแถลงข่าวชี้แจงตอบข้อสงสัยต่อสื่อมวลชนกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีทุจริตที่ดินจังหวัดภูเก็ต และพังงา ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขังชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.15 น. เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินได้รับแจ้งว่ามีคนไข้อาการคล้ายเป็นลม ความดันสูง จึงได้เร่งเดินทางเข้าช่วยเหลือ พบนายธวัชชัยอยู่ในสภาพไม่หายใจ ไม่มีชีพจร จึงได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ หรือ CPR เบื้องต้นเป็นเวลา 15 นาที ก่อนทำการเคลื่อนย้ายมายังโรงพยาบาลทันที ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำ CPR ให้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นทีมแพทย์ได้ทำการต่อท่อ ให้ยากระตุ้นหัวใจ ร่วมกับการช็อตไฟฟ้าทำให้อาการกระเตื้องขึ้นมา แต่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤตจึงได้เคลื่อนย้ายเข้าห้องดูแลคนไข้วิกฤต (CCU) ซึ่งพยาบาลได้พยายามใช้มือคลำชีพจรที่ขาหนีบคนไข้ แต่ไม่พบชีพจร ในระหว่างนั้นก็ได้ให้ยากระตุ้นหัวใจทุกๆ 3 นาทีควบคู่กับการทำ CPR
พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าวอีกว่า ต่อมาทีมแพทย์ได้มีการชี้แจงกับทางญาติและน้องชายของนายธวัชชัยด้วยว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ทางญาติจึงได้รับรู้และเซ็นยินยอม โดยนายธวัชชัยเสียชีวิตในเวลา 04.45 น.ของวันที่ 30 ส.ค. 59 รวมทั้งก่อนการส่งร่างนายธวัชชัยไปให้แพทย์นิติเวชทำการชันสูตรศพ ทางโรงพยาบาลได้สรุปการเสียชีวิตว่าผู้ตายเสียชีวิตในโรงพยาบาลโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ดี ใบบันทึกของพยาบาลในห้องซีซียูได้ระบุถึงรอยช้ำเป็นแนวยาวบริเวณคอของผู้เสียชีวิตด้วย
“สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีหน้าที่เพียงการกู้ชีพคนไข้เท่านั้น และไม่มีหน้าที่ในการชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต ต้องไปสอบถามกับแพทย์นิติเวช เพราะผลชันสูตรจะสามารถให้คำตอบได้ว่าสาเหตุตับแตกเกิดจากอะไร นอกจากนี้ ในทางการแพทย์อาการตับแตกจะไม่ทำให้เสียชีวิตโดยทันที แต่หากเลือดออกจากตับเป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน” พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว
ขณะเดียวกัน ทางทีมแพทย์ที่ทำการช่วยเหลือเผยว่า ผู้เสียชีวิตได้ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมมาโดยไม่มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าจนกระทั่งเข้าห้อง CCU เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของทางโรงพยาบาลให้ และยืนยันว่าไม่พบรอยฉีกของเสื้อผ้า รวมทั้งตั้งแต่เริ่มรับตัวนายธวัชชัยมารักษาจากดีเอสไอจนมาถึงโรงพยาบาล ทางทีมแพทย์ไม่ได้รับแจ้งว่าผู้ป่วยผูกคอตัวเอง ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตว่าทางทีมแพทย์เห็นร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายของคนไข้หรือไม่ ทางแพทย์ไม่ได้สังเกตในรายละเอียดตรงจุดนั้นเพราะต้องเร่งทำการช่วยเหลือคนไข้ก่อน นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีกรณีการทำ CPR และทำให้คนไข้ตับแตกซึ่งผลที่อาจจะเกิดขึ้นมีแค่ซี่โครงหักเท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้
รายงานข่าวแจ้งว่า เดิมที่วันนี้ (1 ก.ย. 59) มีกำหนดฌาปนกิจศพนายธวัชชัย แต่ล่าสุดนายชัยนรงค์ น้องชายยังไม่ได้ฌาปนกิจนายธวัชชัยตามที่กำหนดไว้ มีเพียงแต่การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้แก่พี่ชายเท่านั้น โดยนายชัยนรงค์ให้เหตุผลว่าคดียังไม่สิ้นสุดและสังคมยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น