“เพอร์เฟค” โหมลงทุน และพัฒนาโครงการครึ่งปีหลัง ทั้งโครงการแนวราบ และคอนโดฯ รวม 14 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มพอร์ตกลุ่มแบรนด์เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช เป็น 30% ยันคงเป้าการขายอสังหาฯ ทั้งปี 16,000 ล้านบาท เผยข่าวดีตัวเลขการโอน พร้อมเปิดการขาย “ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส” เจาะกลุ่มนักศึกษา และลูกค้าโดยรอบ
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ “PF” กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯว่า ตั้งแต่ไตรมาส 3 และต่อเนื่องไตรมาส 4 ทางบริษัทฯ จะเร่งการลงทุน และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างเต็มที่ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในครึ่งปีหลังจะเปิดทั้งโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการ 15,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ และแนวสูงรวม 4 โครงการ เป็นแบรนด์ไอคอนโด (โลว์ไรส์) 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท บน 2 ทำเล ได้แก่ แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงใกล้สถานีไทรม้า สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร และทำเลรามคำแหง-เสรีไท คาดเปิดโครงการในเดือนตุลาคมนี้ และโครงการแนวสูงภายใต้แบรนด์คอนโดเมโทร ลักซ์ และแบรนด์เมโทร สกาย รวมมูลค่า 6,500 ล้านบาท จากเป้ารวมทั้งปี 15 โครงการ มูลค่า 22,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการตลาดระดับบนมากขึ้น แยกเป็นในกลุ่มแบรนด์เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช เพิ่มเป็น 30% จากในปีที่ผ่านมา อยู่ที่20% กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลาง สัดส่วน 40% และตลาดระดับล่าง 30%
“เหตุที่สปีดครึ่งปีหลังเพราะเรามองว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น แต่ถ้าจะรอให้ดีขึ้นเลยเรารอไม่ไหว ดังนั้น เราจึงเดินหน้าขยายการลงทุน ขณะที่ในปีที่ผ่านมา เราเปิดโครงการไม่มาก ดังนั้น การเพิ่มขนาดการลงทุนในครึ่งปีหลังจะเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนให้เป้าการขายที่อยู่อาศัยได้ 16,000 ล้านบาท โดยตัวเลขยอดพรีเซล สิ้นเดือน เม.ย.สามารถทำได้ 3,600 ล้านบาท มาจากโครงการแนวราบ 2,300 ล้านบาท และคอนโดฯ 1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของกำลังซื้อครึ่งปีหลังเราคาดว่าตลาดบนไม่มีปัญหา กลุ่มตลาดปานกลางดีอยู่ ไม่แย่ ไม่กังวลเรื่องการเลย์ออฟ แต่กังวลเรื่องเงินเดือน โบนัส ส่วนกลุ่มลูกค้าตลาดระดับล่าง ราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อยูนิต อาจจะมีปัญหาบ้าง ภาพรวมกำลังซื้อแย่ เครดิตไม่ดี แต่เราต้องขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม ยอมรับว่าลูกค้าระดับล่างอาจมีปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งกลุ่มนี้จะมียอดปฏิเสธสินเชื่อ 20-25% แต่ถ้าเฉลี่ยรวมแล้วจะอยู่ที่ 20% และนิ่งมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา”
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสแรกของปี 59 (ม.ค.-มี.ค.) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์แล้ว 3,510 ล้านบาท และคาดว่ายอดการโอนโครงการจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในครึ่งปีหลัง และด้วยการเปิดโครงการแนวราบเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จะผลักดันให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยตัวเลขยอดขายรอบันทึกเป็นรายได้ (แบ็กล็อก) ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 5,400 ล้านบาท แยกเป็นโครงการแนวราบ 900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไนปีนี้ทั้งหมด และโครงการคอนโดฯ จำนวน 4,500 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ 2,700 ล้านบาท
"strong>“แนวโน้มทั้งด้านรายได้ และยอดขายในครึ่งปีหลังก็จะมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะว่าเรามีการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังเยอะ และการโอนโครงการก็จะไปกระจุกตัวในไตรมาส 4 เป็นส่วนใหญ่ ส่วนไตรมาส 3 ก็มีอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าไตรมาส 4 ส่วนไตรมาส 2 นี้ยอดขาย และรายได้ก็อาจจะทรงตัวจากไตรมาสแรก เพราะเราไม่มีเปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ที่มาตรการรัฐยังมีผลอยู่ เราไม่เน้นการเปิดโครงการใหม่ แต่เราไปเน้นการขายของในสต๊อก และโอนโครงการที่เสร็จ”นายวงศกรณ์ กล่าว
สำหรับความคืบการขายหอพักนักศึกษาโครงการ “ยูนิลอฟท์ เชียงใหม่” มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการเจรจาขายโครงการให้แก่ผู้สนใจซื้อ คาดว่าจะมีข้อสรุปได้ภายในปีนี้
เปิด “ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส”
นายวงศกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ“ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส”ว่า เป็นคอนโดฯ โครงการใหม่ล่าสุดใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ด้วยแนวคิดเพื่อการพักอาศัย และการใช้ชีวิตในแบบ Campus Living สำหรับนักศึกษา และคนทำงานบนทำเลศาลายา ที่สำคัญยังได้รับความร่วมมือจาก 2 พันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ “Too Fast To Sleep” ในการเปิดคาเฟ่สุดชิคแห่งใหม่ล่าสุดด้านหน้าโครงการ บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมความร่วมมือจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ด้วยเครือข่าย และบริการดิจิตอล AIS Fibre และ AIS Super Wifi เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แบบ
โครงการ “ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส” เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ อาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ขนาดพื้นที่โครงการ 9-3-38.5 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพียง 1 กม. ประกอบด้วย ห้องพัก จำนวน 880 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 30-36 ตร.ม. ในระดับราคา 1.65-1.80 ล้านบาท ปัจจุบัน ได้เปิดขายอาคารแรกแล้ว 220 ยูนิต ในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายแล้ว 70% และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายไน 1-2 เดือนข้างหน้า และอาคาร 2 คาดว่าจะเปิดขายในเร็วนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าปิดการขายทั้ง 4 อาคารได้ในช่วงกลางปี 2560