“สัมมากร” เชื่อตลาดอสังหาฯ ปี 59 โตตามเศรษฐกิจ พร้อมเดินหน้าเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 4,400 ล้านบาท เผยผลประกอบการปี 58 รายได้ 1,500 ล้านบาท กำไร 122 ล้านบาท
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2558 ว่า บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้ จำนวน 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 31% โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากอสังหาริมทรัพย์แนวราบ 900 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 350 ล้านบาท และอื่นๆ เช่น ค่าเช่า 250 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว และท่ามกลางปัจจัยลบตลอดปี โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเอสเก้า ที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กอปรกับนโยบายการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และจำนองอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจอีกทางหนึ่ง
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 มีแนวโน้มตลาดเติบโตดีขึ้นกว่าปี 2558 ตามทิศทางของเศรษฐกิจ จากคาดการณ์การเติบโตของ GDP ประมาณ 3.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตปี 2558 ที่ขยายตัวเพียง 2.8-3.0% ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การตัดสินใจใช้จ่าย และซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ นอกจากนี้ การลงทุนของภาครัฐด้านระบบสาธารณูปโภคยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มการลงทุนของภาครัฐอีกหลายโครงการในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะการสร้างขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งล้วนแล้วเป็นผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในแง่เพิ่มศักยภาพพื้นที่นอกเมือง
นายกิตติพล กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ชี้ให้เห็นว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2558 มีมูลค่า 484,115 ล้านบาท และมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญของจำนวนทาวน์เฮาส์ ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพียง 30% แต่กลับมียอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นในปี 2558 เป็น 35% สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชันเหมือนบ้านเดี่ยวในราคาที่ประหยัดขึ้น ดังนั้น ในปีนี้คาดการณ์ว่ากลุ่มทาวน์เฮาส์ จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มกำลังซื้อ 2-4 ล้านบาท ในขณะที่บ้านเดียว จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงในช่วงราคา 6-7 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนคอนโดมิเนียม คาดว่ามีการเติบโตต่ำ มาจากกลุ่มนักลงทุนชะลอการลงทุนในคอนโดมิเนียม กอปรกับสถานการณ์โอเวอร์ซัปพลายของตลาดคอนโดมิเนียมในบางพื้นที่
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ จะเร่งระบายสต๊อกบ้านโครงการเดิมที่ยังเหลืออยู่ไม่มาก ประมาณ 110 ยูนิต มูลค่า 680 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม เอสเก้า อีก 800 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,400 ล้านบาทในปีนี้ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวรังสิต คลอง 7 มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการเดิม และโครงการใหม่ที่จะมีการสร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2559 ประมาณ 2,100 ล้านบาท
ในส่วนของศูนย์การค้าชุมชน เพียว เพลส ที่ปัจจุบันมีจำนวน 3 ศูนย์ ได้แก่ สาขารามคำแหง 110 สาขารังสิต คลอง 2 และสาขาราชพฤกษ์ ทางบริษัทฯ จะดูแลพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นศูนย์การค้าของชุมชน ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกบ้านสัมมากร และประชาชนในละแวกใกล้เคียง ตามนโยบายการดำเนินงานที่ว่า “เราไม่เพียงสร้างบ้าน แต่เราสร้างสังคม”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภายในบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต และเพื่อตอกย้ำคุณภาพมาตรฐานที่ผู้บริโภควางใจได้ในแบรนด์สัมมากร โดยการใช้ระบบการบริหารงาน Enterprise Resource Planning : ERP อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การสื่อสารวิเคราะห์ข้อมูลรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำยิ่งขึ้น และปรับปรุงระบบก่อสร้างเป็นระบบ PreFab ระบบก่อสร้างงานสำเร็จรูป เพื่อช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง อีกทั้งสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันมัยขึ้นผ่านรูปแบบการสื่อสารทุกช่องทาง และมุ่งสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง