อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม กำหนดราคา IPO ที่ 5.20 บาท/หุ้น ระดมทุนจำนวน 1,040 ล้านบาท ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย ย้ำราคาไอพีโอสะท้อนพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ ITEL มั่นใจนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อล้นหลาม เปิดผู้ถือหั้น ILINK จองซื้อ 31 สิงหาคม และ 1-2 กันยายน 2559 ส่วนประชาชนทั่วไปจองซื้อ 7-9 กันยายน 2559 คาดซื้อขายใน mai 14 กันยายนนี้
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของบริษัทฯ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นสามัญของ ILINK (Pre-Emptive Right) ไม่เกิน 60 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม และ 1-2 กันยายน 2559 และเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป 140 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2559 โดยมีผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 14 กันยายน 2559 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ITEL”
“การกำหนดราคาไอพีโอของ ITEL ที่ 5.20 บาทต่อหุ้น เป็นการกำหนดราคาในระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากการที่ ITEL มีจุดเด่นที่โครงข่ายเป็นเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงทั้งเส้นทาง ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งยังเป็นโครงข่ายที่เป็นเส้นทางที่แตกต่าง มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากการเข้าสู่ยุคดิจิตอล รวมทั้งสอดคล้องกับการสำรวจความต้องการของนักลงทุนรายย่อยจากการเดินทางไปเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงใหม่ และจากการเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนสถาบัน จึงเชื่อมั่นว่า ITEL จะได้รับความสนใจลงทุนอย่างมาก” นายสมภพ กล่าว
นอกจากนี้ ผลประกอบของ ITEL มีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยรายได้รวมของบริษัทฯ เติบโตจาก 12.57 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มเปิดให้บริการโครงข่าย เป็น 436.89 ล้านบาท ในปี 2558 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงถึง 502.89% และงวด 6 เดือนปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 354.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 95.75% และจากการที่ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สร้างโครงข่ายหลักครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว เหลือเพียงแค่เส้นทางย่อย (Last mile) เพื่อเชื่อมต่อไปยังลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพิ่มเพียงเล็กน้อย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จาก 13.11% ในปี 2556 เป็น 29.98% ในงวด 6 เดือนปี 2559 เช่นเดียวกับอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตราขาดทุนสุทธิที่ 127.99% ในปี 2556 เป็น 10.11% ในงวด 6 เดือนปี 2559 ส่งผลทำให้กำไรสุทธิของงวด 6 เดือนปี 2559 เพิ่มเป็นจำนวน 35.87 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2558 ที่มีจำนวน 30.67 ล้านบาท นอกจากศักยภาพในการเติบโตของรายได้แล้ว อัตราการทำกำไรดังกล่าวยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale) ทำให้มั่นใจว่า ITEL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
ด้าน นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 1,040 ล้านบาท จะนำไปใช้ในการปรับปรุง และขยายประสิทธิภาพโครงข่าย จำนวน 50 ล้านบาท ใช้เป็นเงินลงทุนในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ จำนวน 70 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบริษัทที่เกี่ยวข้อง จำนวน 600 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
“ITEL กำหนดราคาเสนอขายที่ 5.20 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งนักลงทุนจะได้มีส่วนลงทุนในบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโตสูง การระดมทุนครั้งนี้จะยิ่งสร้างการเติบโตจากการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการ การปรับปรุง และขยายประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับความต้องการใช้งาน และเพื่อเพิ่มเสถียรภาพ และประสิทธิภาพการให้บริการ เนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านข้อมูลมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานต้องการช่องสัญญาณขนาดใหญ่ โดยบริษัทฯ จะลงทุนในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับโครงข่าย เช่น MPLS และ DWDM รวมถึงอุปกรณ์ Node เพื่อรองรับการเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เมียนมา และลาว เพื่อรองรับการเปิด AEC รวมทั้งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ และชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น เชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ITEL จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี” นายณัฐนัย กล่าว
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 500 ล้านบาท โดยมีบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นสัดส่วน 99.99% และภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 60% จำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ ILINK ตามสัดส่วนการถือหุ้น Pre Emptive Right 12% และจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชน 28%