xs
xsm
sm
md
lg

ศก.US ไม่เป็นดังคาด หนุนราคาทองคำปรับตัวไปต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราคาทองคำโดยรวมยังเคลื่อนไหวในแดนบวก แม้เจอแรงเทขายทำกำไรกดดัน เหตุเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวไม่เป็นไปตามคาด อาจกดดันให้เฟดเลื่อนการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังเศรษฐกิจยังผันผวน แนะเน้นการลงทุนระยะสั้นตามการแกว่งตัวของราคา

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางการแกว่งตัวของราคาทองคำว่า ยังเป็นไปเหมือนช่วงก่อนหน้านั่นคือ ได้ราคาสนับสนุนจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนกระแสการคาดการณ์การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะเลื่อนออกไป หลังดัชนีภาคการผลิตแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดถึงการชะลอตัว และอาจส่งผลต่อตัวเลขการจ้างงานในอนาคต ทำให้ปัจจัยดังกล่าวผลักดันราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อทองคำมีการรีบาวนด์ขึ้น จะได้เห็นแรงเทขายทำกำไรในราคาทองคำออกมาเช่นกัน

สิ่งที่นักลงทุนจำเป็นต้องจับตาดูจากนี้ ประเมินว่า คือ ทิศทางเศรษฐกิจ และกระแสการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในฝั่งสหรัฐฯ เพื่อเป็นปัจจัยในการชี้นำราคาทองคำในระยะถัดไป ส่วนปริมาณการซื้อขายทองคำภาพรวมยังชะลอตัวลง ทำให้แรงซื้อที่เข้ามาช่วงนี้ยังคงขาดปัจจัยสนับสนุน

“ภาพรวมเราต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ ว่าจะเป้นเช่นไร เนื่องจากจะส่งผลต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีผลต่อราคาทองคำ เช่น รายงานการประชุม FOMC ในครั้งที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ว่ายังต่ำกว่า 3 แสนรายอยู่หรือไม่ หากยังอยู่ในระดับต่ำอาจเป็นข้ออ้างให้เฟดใช้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”



นอกจากนี้ ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก แต่หลังจากหลุด 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะเห็นว่าทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินบาทเริ่มค่อนข้างจำกัด ถือเป็นอีกปัจจัยกดดันต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศที่ลดลง

สำหรับกลยุทธ์ลงทุน ยังเน้นการลงทุนระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ โดยพอราคามีการทดสอบแนวต้านที่ 1,358-1,363 เหรียญ/ออนซ์ ยังคงมีแรงขายค่อนข้างชัดเจนจนราคาอ่อนตัวลง ขณะที่ราคาทองคำในระดับดังกล่าวถือเป็นจุดที่สร้างผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงหากเทียบตั้งแต่ต้นปี ซึ่งนักลงทุนที่ถือครองทองคำอยู่อาจสามารถนำทองคำออกมาขายทำกำไร
 
แต่การอ่อนตัวลงมาของราคาทองคำ ถือว่ายังไม่มากนัก เพราะพอราคาอ่อนตัวลงมาที่ 1,330-1,320 เหรียญ/ออนซ์ ยังประเมินว่าจะมีแรงเข้ามารับซื้อให้ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้น หรือรีบาวนด์ขึ้นมา เพราะส่วนราคาทองคำยังได้รับปัจจัยโน้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษที่ยังคงผันผวน จึงเกิดแรงซื้อเข้ามาในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จึงประเมินกรอบด้านบน 1,363-1,375 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนกรอบด้านล่าง 1,330-1,320 เหรียญ/ออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับด้านล่างดังกล่าว ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ เป็นแนวรับสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น