xs
xsm
sm
md
lg

บึ้มภาคใต้กดราคาหุ้นการบินไทยร่วง 6.42%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์ประเมินหุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศ-ท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากเหตุระเบิดในภาคใต้ ขณะที่ บมจ.การบินไทย ราคาหุ้นร่วงกว่า 6.42% ปิดที่ 25.50 บาท ส่วน AOT ปิดที่ 412 บาท ลดลง 1.90%

จากเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดทางภาคใต้เมื่อช่วงวันหยุด (12-14 ส.ค.59) ที่ผ่านมา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศ และหุ้น AOT ปรับตัวลงในช่วงสั้น โดยเฉพาะบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงแรมไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากทุกกลุ่มบริษัทมีโรงแรมกระจาย รวมถึงต่างประกอบกิจการมากกว่า 1 ประเภทธุรกิจ

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส ระบุเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบในกลุ่มขนส่งทางอากาศ และท่าอากาศยานเพียงระยะสั้น เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ขณะที่กลุ่มโรงแรม บริษัทจดทะเบียนฯ ส่วนใหญ่มีโรงแรมให้บริการในแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวน้อย ยกเว้นที่หัวหิน ซึ่งพบว่า บริษัท ดิเอราวัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW โรงแรม 1 แห่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของรายได้รวม บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL มีโรงแรม 1 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 3% และบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ก็มีโรงแรมเพียง 1 แห่ง แต่คิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 1% ของรายได้รวม

“แม้ว่า ERW จะทำธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก แต่รายได้จากโรงแรมหัวหิน คิดเป็นเพียง 2% ของรายได้รวมขณะที่ CENTEL และ MINT มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลายสุดทั้งโรงแรม อาหาร อสังหาฯ และค้าปลีก ทำให้สัดส่วนรายได้กระจายตัวทั้งอาหาร และโรงแรม อย่างละเกือบ 50%” นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ปรับตัวลงมากกว่าตัวอื่นๆ ในกลุ่ม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส วิเคราะห์ว่า สาเหตุเกิดจาก THAI มีสัดส่วนรายได้จากภาคใต้ประมาณ 4%-5% ของรายได้รวม ประกอบกับนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการไตรมาส 2/59 ที่แม้ว่าจะขาดทุน 2,921 ล้านบาท ลดลงจากที่เคยขาดทุน 12,759 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปีก่อน ขณะงวด 6 เดือน ผลงานพลิกเป็นกำไร 3,078 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 8,217 ล้านบาท ในงวดเดียวกันปีที่แล้วก็ตาม ขณะที่ AAV และ BA มีสัดส่วนเที่ยวบินไปทางภาคใต้น้อยน้อยกว่า THAI

“AAV BA และ THAI ปัจจุบันกำหนดสมมติฐาน Cabin Factor ทั้งปี 59 ที่ 81% 70% และ 73% พบว่าทุก Cabin Factor ที่ลดลง 1% จะกระทบต่อกำไร AAV ที่ 11% BA ที่ 10% และ THAI ที่ 43% และกระทบ Fair Value ลดลง 0.24, 1 และ 1 บาท ตามลำดับ” นายเทิดศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการสนามบินเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากกว่าสายการบิน เพราะกระทบทั้งจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสายที่ลดลงในช่วงสั้น กล่าวคือ AOT มีสนามบิน 2 แห่งในภาคใต้ คือ หาดใหญ่ และภูเก็ต ปริมาณผู้ใช้บริการช่วงครึ่งปีแรก (สิ้นสุด ก.ย.59) มีสัดส่วนราว 15.5% ของรายได้ แต่โดยรวมฝ่ายวิจัยประเมิน AOT มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมภาษีสนามบินขาออกจาก 2 สนามบินดังกล่าวอยู่ราว 10% ของรายได้รวม

“AOT ภายใต้สมมติฐานปัจจุบันกำหนดการเติบโตผู้ใช้บริการปีบัญชี 2559 (สิ้นสุด ก.ย.59) เติบโต 12% ทั้งนี้ หากกำหนดให้การเติบโตฯ ลดลงทุก 1% จะกดดันกำไรให้ลดลง 1.3% และกระทบ Fair Value 7 บาท” นายเทิดศักดิ์ กล่าว

นางสาวอภิญญา เลิศขจรกิตติ นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุโดยภาพรวมสัดส่วนผู้โดยสารของบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ยังคงมีการเติบโตแข็งแกร่ง ตามการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำในช่วง เม.ย.-พ.ค. ขยายตัวถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยใน 9 เดือนแรก (ต.ค.58-มิ.ย.59) จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศเติบโต 15% และผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโต 10% และมียังแนวโน้มที่จะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ความคุ้มค่าเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุน และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังประเทศไทย

ปัจจุบัน สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร จำนวน 83.5 ล้านคนต่อปี แต่ ณ ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 106 ล้านคนต่อปี หรือเกินกว่าขีดความสามารถในการรองรับถึง 28% ซึ่งจำนวนผู้โดยสารที่เข้าใช้บริการสนามบินของ AOT นั้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 85% ของผู้โดยสารโดยรวมทั้งหมดจากสนามบินเกือบ 40 แห่งทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ AOT จึงได้วางแผนพัฒนา และขยายสนามบินภายใต้การบริหารด้วยงบลงทุนราว 1.94 แสนล้านบาท ตลอดช่วงระยะเวลา 15 ปี (2559-2573) โดยคาดจะใช้เงินลงทุนจากเงินทุนหมุนเวียนปัจจุบันกว่า 5 หมื่นล้านบาท และจากกระแสเงินสดในแต่ละปีที่ราว 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอ และสอดคล้องกับแผนพัฒนาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ปิดตลาดที่ 25.50 บาท ปรับตัวลดลง 1.75 บาท เปลี่ยนแปลง 6.42% มูลค่าการซื้อขาย 2,492.54 ล้านบาท

บริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ปิดที่ 412 บาท ลดลง 8.00 บาท เปลี่ยนแปลง 1.90% มูลค่าการซื้อขาย 2,870.35 ล้านบาท

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ปิดที่ 24.30 บาท ลดลง 0.20 บาท เปลี่ยนแปลง 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 400.70 ล้านบาท

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ปิดที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท เปลี่ยนแปลง 2% มูลค่าการซื้อขาย 1,356.85 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น